Category: การเลี้ยงดูลูก

  • การดูแลเด็กแรกเกิด สำหรับพ่อแม่มือใหม่ : การนอนของลูก

    การดูแลเด็กแรกเกิด สำหรับพ่อแม่มือใหม่ : การนอนของลูก

    ลูกมักจะนอนหลับอยู่ตลอดเวลา เพราะการนอนทำให้ทารกมีการเจริญเติบโต เด็กทารกจะหลับหลังได้กินมื้อนม และจะหลับยามไปจนไปถึงมื้อนมอีกมื้อ ซึ่งเด็กทารกกากได้รับนมและการหลับที่เพียงพอ และระบบการขับถ่ายในร่างกายดี จะทำให้ลูกสุขภาพดี และส่งผลไปถึงทางด้านอารมณ์และการเจริญเติบโต

    จัดระบบการนอนชองลูกได้ดี จะช่วยให้เด็กนอนง่าย

    คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกหัดนอนให้เป็นเวลา เพราะจะทำให้เด็กเป็นคนนอนง่าย โดยเริ่มฝึกจากการที่ให้นอนหลังมื้อนมอย่างสม่ำเสมอ จนให้ลูกติดเป็นนิสัยกิจวัตรประจำวัน หากในบางครั้งถึงเวลานอนแต่ลูกยังอยากเล่น ก็ควรยอมลูกบ้างนาน  ๆ ครั้งแต่อย่าบ่อยเพราะเดียวติดเป็นนิสัย

    การนอนคว่ำ นอนหงายของลูก

    การนอนคว่ำ นอนหงายของลูก

    ในสมัยก่อนคนไทยจะนิยมให้เด็กนอนในท่านอนหงาย เพราะมีความเข้าใจว่า เด็กอาจหายใจไม่ออก ซึ่งที่นอนของเด็กมักจะเป็นเบาะนอนที่นุ่ม และหากเด็กนอนคว่ำอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้เด็กจมกับเบาะแล้วหายใจไม่ออก

    ซึ่งต่อมา ก็มีที่นอนแบบแข็งเป็นแบบจากทางตะวันตก สามารถให้เด็กนอนคว่ำได้ และยังส่งเสริมให้สรีระของศีรษะของลูกได้รูปทรงที่สวยด้วย ขอดีของที่นอนประเภทนี้ จะทำให้ลูกให้สำลักนมในขณะที่อ้วกนมออกมา แต่ในปัจจุบันก็หันกลับมาให้ลูกได้นอนหงายอีกครั้ง

    ดังนั้น การนอนคว่ำหรือนอนหงาย แบบไหนก็ไม่ผิด และแต่วิจารณญาณของคุณพ่อคุณแม่ได้เลย ว่าลูกนอนท่าไหนสบายมากที่สุด หรือจะสลับการนอนคว่ำหงายก็ไม่ผิดอะไร แต่ควรระมัดระวังการนอนคว่ำ อย่าให้ลูกจมูกจมเป็นพอ เพราะมันจะอันตรายถึงชีวิตของลูกได้ การนอนของลูกจะลำบากเพียง 3-5 เดือนเท่านั้น ต่อจากนั้นการนอนของลูกเข้าที่เข้าทางไปเองค่ะ

    การนอนตื่นสายของลูก

    ในช่วงเข้า 3 เดือนจนไปถึง 1 ปี พฤติกรรมการนอนของลูกจะเปลี่ยนไป ลูกจะเริ่มตื่นสายขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจเคยชินลูกตื่นเช้ามืดขึ้นมากินนม แต่พอลูกตื่นสายขึ้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะตกใจตื่นเพียงแค่พลิกตัว

    ดังนั้น อย่าเพิ่งให้นมลูกในทันที คุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้นอนเล่นกลิ้งไปกลิ้งมาแบบสบายๆ โดยเฉพาะในวันหยุด อาจจะตั้งนาฬิกาปลุกให้เลยช่วงเวลา 7-8 โมงเช้าเข้าไปสัก 5 นาที วันต่อๆ ไปก็ตั้งให้สายกว่านี้ ลูกอาจจะได้นอนนอนขึ้นสักหน่อย

    ลูกนอนกับพ่อแม่นานเท่าไร

    เมื่อเข้าช่วง 6 เดือน ควรแยกห้องนอนกับพ่อและแม่ หรือไม่ก็นอนกับคนเลี้ยงที่ไว้ใจได้ ซึ่งลูกบ้างบ้านก็ให้นอนกับคุณยาย คุณย่า บ้าง ในบางครั้งคุณแม่ก็ควรไปนอนกับลูกบ้าง

    หากคุณตัดสินใจแยกห้องนอนกับลูกแล้ว ก็ควรทำอย่างจริงจัง หากลูกหลับอยู่บนเตียงของพ่อแม่ ก็ควรอุ้มกลับไปนอนที่ห้องของลูก เมื่ออุ้มไปแล้วไม่ควรกลับมาในทันที ควรที่อยู่กับลูกต่อสักพัก อยู่จนลูกหลับสนิท แล้วค่อยกลับมาที่ห้องของตนเอง

    การนอนของลูกเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ เพราะการนอนของลูก จะส่งผลต่อทางด้านอารมณ์การเจริญเติบโตของลูกค่ะ

  • การดูแลเด็กแรกเกิด สำหรับพ่อแม่มือใหม่ : การดูแลลูกคลอดก่อนกำหนด

    การดูแลเด็กแรกเกิด สำหรับพ่อแม่มือใหม่ : การดูแลลูกคลอดก่อนกำหนด

    อายุครรภ์ปกติที่เด็กจะเกิดมา คือ 39-40 สัปดาห์ แต่ก็มีคุณแม่บางรายที่คลอดลูกก่อนกำหนดคือ 28-36 สัปดาห์ ซึ่งเด็กที่คลอดก่อนกำหนด มักจะมีลักษณะที่ตัวเล็ก ส่วนมากน้ำหนักจะถึง 2500 กรัม ร่างกายของเด็กจะยังไม่พร้อมต่อสภาพแวดล้อมปกติที่นอกครรภ์ของแม่ เพราะระบบในร่างกายต่าง ๆ ของร่างกายของเด็กยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจยังทำงานไม่ได้เต็มที่ ทำให้หายใจเองยังไม่ได้ ดังนั้น เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และน้ำหนักต่ำกว่า 2500 กรับ แพทย์จะนำตัวเด็กเข้าสู่ตู้อบ (Incubator) ในทันที

    วิธีการดูแลเด็กที่คลอดก่อนกำหนด

    เด็กที่คลอดก่อนกำหนด มีความต้องการทั้งอาหาร การปรับอุณหภูมิที่สมดุลต่อร่างกาย และต้องการการนอนหลับมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายกลับมาเจริญเติบโตได้ปกติสมบูรณ์ได้เท่ากับเด็กที่คลอดครบกำหนด แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ จะต้องการดูแลเป็นพิเศษ และอย่างถูกต้องที่สุด

    การให้สำหรับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดเป็นเรืองที่ยากมาก จะต้องให้นมโดยที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ว่าควรให้นมในเวลาไหน ตอนไหน ซึ่งบางโรงพยาบาลจะใช้นมแม่ บางโรงพยาบาลก็จะนำนมไปทำการเจือจางก่อน เพราะการที่ให้นมเร็วเกินไปจะทำให้เด็กเกิดอาการสำลักได้ง่าย

    อีกอย่างที่เด็กที่คลอดก่อนกำหนดมักจะเป็นคือ เด็กจะหายใจลำบาก การที่จะให้ดูดนมจะทำได้ลำบาก ในบางครั้งแพทย์จะให้ช่วยให้อาหารผ่านทางท่อใส่จมูก และเมือเด็กแข็งแรงขึ้นก็จะถอดท่อออก แต่ก็ยังไม่ให้ดูดนมในทันที แต่จะค่อยๆ หยอดนมใส่ปากแทนโดยใช้หลอดแก้วหยอดยา ดังนั้นข้อควรระวัง จะต้องทำความสะอาดหลอดหยอดยาให้สะอาดสม่ำเสมอ เพื่อเลี่ยงต่อการติดเชื้อ

    ในบางกรณีที่คุณแม่มีปริมาณน้ำนมมาก คุณแม่ก็สามารถจะทำการปั๊มนมเก็บไว้ได้

    คุณแม่หลายๆท่าน โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ อาจมีความสงสัย ว่าหากลูกอยู่ในตู้อบ สามารถสัมผัสลูกได้หรือไม่

    คำตอบคือ “ได้” ถึงแม้ลูกของคุณแม่ จะอยู่ในตู้อบ แต่คุณพ่อหรือคุณแม่ก็สามารถสัมผัสหรือให้ความรักกับลูกได้  เพราะที่ตู้อบมีช่องที่สามารถเอามือสอดเข้าไปสัมผัสดูแลลูกได้ สามารถใช้นิ้วมือลูบไล้ทั่วผิวลูก และลูกสามารถรับรู้ได้และเป็นการกระตุ้นในการเจริญเติบโตของลูก ให้ลูกเร่งการสมบูรณ์ของร่างกาย เพราะเด็กที่คลอดกอดกำหนดก็สามารถเรียนรู้ รับสัมผัส ดมกลิ่น และฟังเสียงจากคุณพ่อคุณแม่เช่นเดียวกับทารกทั่วไป

    เกล็ดเล็กเกล็ดน้อย : การให้นมเด็กที่คลอดก่อนกำหนด

    เด็กที่คลอดก่อน ต้องให้นมในแต่ละครั้งในปริมาณที่น้อย แต่จะให้บ่อยกว่าเด็กทั่วไป โดยประมาณ 3 ชั่วโมง/ครั้ง

    • เมื่อคุณแม่เริ่มมีน้ำนม อาจให้นมแม่ในประมาณ 1 ช้อนชา หยอดใส่ปาก
    • เด็กอายุครบ 4 วันได้มากกว่านี้ก็เพิ่มได้
    • เด็กอายุ 5 วัน  เพิ่มเป็น 2 ช้อนชา
    • เด็กอายุ 10 วัน เพิ่มนมทีละน้อยในแต่ละมื้อ จนได้มื้อละ 7 ช้อนชาหรือประมาณ 1 ออนซ์
    • เมื่อเด็กมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม ควรเริ่มให้ดูดนมแม่จากอกหรือจากขวด และในตอนนี้เด็กจะเริ่มมีความต้องการนมทุกๆ 2-4 ชั่วโมง หรือวันละ 8 มื้อ ประมาณนม 10-12 ออนซ์ต่อวัน
    • เมื่อเด็กมีน้ำหนัก 2.7 กิโลกรัม ก็เท่ากับเด็กคลอดครบกำหนด จะนอนในห้องที่มีอุณหภูมธรรมดาได้ ลูกจะดูดนมได้เอง คุณพ่อคุณแม่ก็พาลูกกลับบ้านได้

  • ช้อปปิ้งเด็กแรกเกิด สิ่งของจำเป็นสำหรับลูกน้อย

    ช้อปปิ้งเด็กแรกเกิด สิ่งของจำเป็นสำหรับลูกน้อย

    สิ่งของเครื่องใช้ที่สำคัญที่สุดที่ทารกแรกเกิดคืออะไร หลายท่านเชื่อว่าไม่ควรซื้อสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กไว้ จากความเชื่อที่ว่าเด็กอาจจะไม่ได้เกิดมีวิญญาณที่อิจฉาพรากเด็กไป เนื่องจากสมัยก่อนอันตรายจากการคลอดลูกมีความเสี่ยงสูง จึงทำให้การเตรียมของใช้สำหรับเด็กไม่มากนัก เนื่องจากสิ่งของเครื่องใช้ส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างสูงหรือมักเกิดจากการเห่อลูกทำให้มีการเตรียมของใช้ไว้มาเกินความเป็นค่ะ ซึ่งบางอย่างอาจไม่ได้ใช้และการซื้อสิ่งของบางอย่างมาเก็บไว้เป็นเวลานอนทำให้มีสิ่งสกปรกหรือเชื้อราได้ค่ะ ดังนั้นการตรวจสอบสิ่งของจำเป็นสำหรับทารกแรกเกิดนั้น สามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่กำหนดสิ่งที่คุณต้องซื้อและเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดของทารกตามความจำเป็นค่ะ

    สิ่งที่ควรซื้อสำหรับทารกแรกเกิด

    การเตรียมสิ่งของสำหรับเด็กนั้นต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆและความจำเป็นค่ะ สิ่งของจำเป็นสำหรับทารกแรกเกิดคือต้องมีชุดเสื้อผ้าสำหรับทารกและอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม และในบทความนี้สิ่งจำเป็นสำหรับทารกแรกเกิดจะถูกแบ่งออกเป็นวัตถุประสงค์เพื่อให้ง่ายขึ้นสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ค่ะ

    เสื้อผ้า สิ่งแรกที่คุณต้องซื้อสำหรับทารกแรกเกิดของคุณคือ เสื้อผ้าเด็กแรกเกิดจะต้องสวมใส่สบาย ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเลื่อม ริ้บบิ้นหรือกระดุมเพราะสิ่งเหล่านี้อาจเป็นอันตรายจากการสำลักหรือเป็นสาเหตุของการระคายเคืองผิวหนัง อย่าซื้อเสื้อผ้ามากเกินไปเพราะเด็กแรกเกิดโตเร็ว นอกจากนี้ให้พิจารณาสภาพอากาศค่ะ เช่น ชุดบอดี้สูทหรือชุดนอนสำหรับทารกแรกเกิดได้รับการออกแบบเพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงและแต่งตัว ถุงเท้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เท้าของทารกแรกเกิดอบอุ่นตลอดเวลา หากอุณหภูมิลดลงหรือเมื่อออกไปข้างนอก เป็นต้น

    อาบน้ำและทำความสะอาด ซึ่งเด็กทารกแรกเกิดจำเป็นต้องใช้ผ้าเช็ดหรือฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว และสิ่งจำเป็นสำหรับการอาบน้ำและการทำความสะอาดที่คุณจะต้องมีสำหรับทารกคือ

    • อ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของทารกและความสะดวกสบายของคุณ สามารถเลือกอ่างอาบน้ำตามความต้องการจากตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาด
    • ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัว ควรเป็นผ้าที่ทำจากวัสดุดูดซับน้ำได้ดีและอ่อนโยนต่อผิวหนังลูกน้อย
    • แชมพูสำหรับเด็กทารกแรกเกิด ต้องใช้แชมพูที่อ่อนโยนปราศจากปราศจากน้ำหอม เมื่อใช้เป็นครั้งแรกคุณสามารถซื้อขวดเล็กและตรวจสอบว่าผิวของทารกแรกเกิดมีปฏิกิริยาอย่างไรค่ะ
    • ครีมบำรุงผิวหรือออยบำรุงสำหรับทารกแรก เกิดให้ผิวชุ่มชื่นซึ่งต้องใช้ทุกครั้งหลังอาบน้ำ หากไม่แน่ใจว่าครีมจะเหมาะกับลูกน้อยของคุณหรือไม่ให้ทำการทดสอบและรอสักครู่ หากผิวของทารกไม่มีปฏิกิริยาคุณสามารถทาได้ทั่วร่างกายค่ะ

    ผ้าอ้อมและอุปกรณ์ เมื่อคุณนึกถึงเด็กแรกเกิดแง่มุมแรกที่นึกถึงนอกเหนือจากเสื้อผ้าคือ ผ้าอ้อมค่ะ สิ่งของจำเป็นสำหรับเด็กๆค่ะ

    • ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ไม่ควรซื้อในจำนวนมากๆเกินไปเนื่องจากทารกส่วนใหญ่มักเปลี่ยนขนาดบ่อย และในบางรายอาจแพ้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปบางยี่ห้อค่ะ
    • ผ้าอ้อมผ้าฝ้าย คือผ้าอ้อมที่สามารถนำกลับมาให้ใหม่เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผิวทารกที่บอบบาง อย่างไรก็ตามต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเหล่านี้ทันทีที่เปื้อนและควรซักทำความสะอาดทุกวันค่ะ 
    • ครีมป้องกันผดผื่นผ้าอ้อม การเลือกซื้อต้องมั่นใจในคุณภาพและเหมะสำหรับเด็กแรกเกิด
    • ผ้าเช็ดทำความสะอาดเปียก หรือที่เรียกว่า ทิชชู้แบบเปียก การทำความสะอาดก้นทารกแรกเกิดจะต้องทำอย่างอ่อนโยนและถูกสุขลักษณะ ผ้าเช็ดทำความสะอาดเปียกช่วยให้คุณเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวลูกน้อย ซึ่งควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมเพราะผิวเด็กบอบบางอาจเกิดอาการแพ้ได้ค่ะ
    • ผ้าสำหรับรองเปลี่ยนผ้าอ้อม สิ่งนี้จำเป็นมากเมื่อต้องเดินทางหรือออกนอกบ้านค่ะ ตัวช่วยให้คุณแม่มั่นใจในการวางลูกน้อยเปลี่ยนผ้าอ้อมได้สะดวกมากขึ้นค่ะ

    การให้นมลูก โดยไม่คำนึงถึงวิธีการเลี้ยงลูกน้อยของคุณ ซึ่งรายการด้านล่างจะช่วยให้คุณแม่ทราบว่าคุณจำเป็นต้องให้นมลูกอย่างไร

    • เสื้อและชุดชั้นในสำหรับให้นม ควรเป็นเสื้อที่สามารถเปิดให้นมลูกได้สะดวกสบาย นอกจากนี้คุณอาจเลือกแผ่นซับน้ำนมหรือแผ่นป้องกันหัวนมเพื่อดูดซับน้ำนมส่วนเกินที่อาจรั่วไหลออกมาได้ค่ะ
    • เครื่องปั้มน้ำนม ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบที่จำหน่ายในท้องตลาด เช่น เครื่องปั๊มน้ำนมไฟฟ้า ที่ปั๊มนมด้วยตนเอง รวมถึงถุงสำหรับบรรจุน้ำนม ทั้งนี้การเลือกชื้อขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณค่ะ 
    • อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือป้อนขวดนมทารกแรกเกิดซึ่งจะต้องฆ่าเชื้อจุกนม จุกนมหลอกและขวดนมโดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี การทำความสะอาดอย่างเดียงอาจไม่เพียงพอค่ะ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของทารกอ่อนแอ
    • ขวดนม จุกนม คุณสามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับลูกน้อย แต่ต้องแน่ใจว่าคุณซื้อขวดนมไม่มีสาร BPA ที่ทำจากวัสดุคุณภาพดีที่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้

    ชุดเครื่องนอนสำหรับเด็ก ที่นอนและแปลควรเป็นที่นอนที่หนาแน่นและมีน้ำหนักเบาหลีกเลี่ยงที่นอนที่นุ่มเกินไปจนตัวลูกยุบตามที่นอนได้ เพราะอาจทำให้ทารกหายใจไม่ออกค่ะ ผ้าห่มควรเบาและระบายอากาศได้ ในบางบ้านอาจใช้มุ้งเพื่อกันยุงร่วมด้วยค่ะ

    ความปลอดภัย การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย เช่น การสร้างหรือจำกัดพื้นที่เฉพาะสำหรับเด็ก การป้องกันมุมเฟอร์นิเจอร์ ประตูบันไดมีความจำเป็นอย่างมากในการหลีกเลี่ยงการตกและอื่นๆ ที่สามารถช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยสำหรับลูกน้อย นอกจากนี้ควรมีชุดปฐมพยาบาล เครื่องวัดอุณหภูมิที่เกี่ยวกับการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ

    อุปกรณ์สำหรับเด็กอ่อนอื่นๆเมื่อต้องออกนอกบ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับมื้ออาหารหรือออกไปข้างนอก เช่น เป้อุ้มเด็ก คาร์ซีท รถเข็นเด็ก รวมถึงอุปกรณ์ทานอาหารสำหรับเด็ก ซึ่งมีผลิตภัณฑ์สำหรับทารกที่หลากหลายเหมาะสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปค่ะ คุณแม่สามรถเลือกได้ตามความต้องการและเหมาะสมกับลูกของคุณ

    เนื่องจากการคลอดลูกมีสิ่งจำเป็นมากที่ต้องทำในขณะที่เตรียมการสำหรับการมาถึงของทารกแรกเกิด และการซื้อของใช้ต่างๆจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมพร้อม แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสมกับลูกของคุณมากที่สุดค่ะ

  • ข้อดีและข้อเสีย จุกหลอกสำหรับเด็ก (Pacifier)

    ข้อดีและข้อเสีย จุกหลอกสำหรับเด็ก (Pacifier)

    จุกหลอกอุปกรณ์สำหรับเด็กเล็กชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก มีลักษณะเป็นจุกนมที่ผลิตจากยางและซิลิโคน เพื่อช่วยผ่อนคลายให้ลูกน้อยหลับง่ายขึ้นค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่าจุกนมหลอกมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ก่อนตัดสินใจเลือกใช้จุกหลอกเพื่อให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อลูกน้อยของคุณ

    ข้อดีของจุกหลอก

    ช่วยปลอบลูกน้อยให้อารมณ์ดีขึ้นได้

    • ช่วยปลอบลูกน้อยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ เนื่องจากเด็กบางคนมีความสุขหรืออารมณ์ดีขึ้นเมื่อดูดอะไรบางอย่าง รวมถึงสามารถป้องกันการดูดนิ้วได้

    ช่วยให้ลูกน้อยของคุณหลับง่าย

    • ช่วยให้ลูกน้อยของคุณหลับง่ายหรือนานมากขึ้น เนื่องจากการดูดบางสิ่งทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลินค่ะ

     ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ

    • ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจหรือลดความฟุ้งซ่านชั่วคราวได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องไปหาหมอฉีดวัคซีนค่ะ

    ช่วยลดอาการหูอื้อหรือปวดหู

    • ช่วยลดอาการหูอื้อหรือปวดหูในขณะขึ้นเครื่องบินกำลังขึ้นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความดัน เนื่องจากการดูดบางจะช่วยปรับระดับความดันภายในหูได้ค่ะ

    ภาวะไหลตายในเด็กทารก

    • ช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจาก ภาวะไหลตายในเด็กทารก(SIDS) การดูดจุกนมหลอกก่อนนอนสามารถช่วยลดความเสี่ยงของ SIDS ได้ค่ะ

    ข้อเสียของจุกหลอก

    ข้อเสียของจุกหลอก

    ผลกระทบข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากจุกหลอก ได้แก่ ปัญหาในช่องปาก เช่น ฟันหน้ายื่นผิดรูปหรือฟันขึ้นผิดปกติ ฟันผุ เป็นต้น การดูดจุกหลอกโดยไม่มีการทำความสะอาดที่ถูกต้องเหมาะสมส่งผลให้เสี่ยงต่อการป่วยได้ง่ายหรือติดเชื้อในหูชั้นกลาง เนื่องจาก จุกหลอกอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่างๆค่ะ นอกจากนี้ยังเกิดอันตรายได้จากการใช้จุกหลอกชำรุดอาจทำให้อุดกลั้นทางเดินหายใจทำให้หายใจไม่ออกได้ค่ะ จุกหลอกไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับรองมาตรฐาน (มอก) และมีสารบีพีเอ (BPA free) สารเคมีในพลาสติกมีผลต่อสมองค่ะ

    การเลือกและการใช้จุกหลอกสำหรับเด็ก อย่างถูกวิธี

    เลือกให้เหมาะกับช่วงอายุ

    • เลือกให้เหมาะกับช่วงอายุและปากของลูกน้อย

    มอก. 

    • จุกหลอกที่ได้รับรองมาตรฐาน (มอก)

    มาตรฐาน BPA free

    • มีสารบีพีเอ (BPA free)

    จุกหลอกควรมีรูระบายอากาศ

    • จุกหลอกควรมีรูระบายอากาศ เพื่อให้อากาศผ่านได้ง่าย

    แป้นจุกหลอกไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป

    • แป้นจุกหลอกไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป เนื่องจากอาจกดทับจมูกของลูกน้อยในขณะดูดจุกนมหลอกได้ค่ะ

    หลีกเลี่ยงการใช้สายคล้องจุกหลอก

    • หลีกเลี่ยงการใช้สายคล้องจุกหลอกกับคอของลูกน้อย เพราะอาจรัดคอจนขาดอากาศหายใจได้ค่ะ

    ห้านนำจุกหลอกแช่ตู้เย็น

    • ห้านนำจุกหลอกแช่ตู้เย็นโดยเฉพาะช่องแช่แข็ง เพราะอาจทำให้จุกแข็งตัวและเปราะแตกหรือฉีดขาดได้ง่ายค่ะ

    ทำความสะอาดจุกหลอกเด็ก

    นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดเป็นประจำเนื่องจากเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคค่ะ และไม่ควรหลอบจุกหลอกด้วยน้ำหวานหรือน้ำผึ้ง เพราะในระยะยาวจะทำให้ดูติดรสหวานและฟันผุได้ค่ะ อีกทั้งน้ำผึ้งเป็นอันตรายต่อเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคโบทูลิซึ่มในเด็กได้ค่ะ

  • ลูกเดินเขย่งปลายเท้า ผิดปกติไหม ? (Toe walking)

    ลูกเดินเขย่งปลายเท้า ผิดปกติไหม ? (Toe walking)

    เดินเขย่งเท้า (Toe walking) คือลักษณะเด็กที่เดินโดยใช้ปลายเท้าและส้นเท้าไม่แตะพื้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติของเด็กวัยหัดเดินช่วงอายุ 1 – 3 ปี อย่างไรก็ตามหากเด็กอายุเกินกว่านี้แล้วยังมีพฤติกรรมการเดินเขย่งปลายเท้า อาจเกิดจากนิสัยการเดินหรือปัญหาอื่นๆได้ค่ะ รวมถึงการเดินเขย่งเท้าอาจทำให้ข้อต่อและกล้ามเนื้อของเด็กๆเกิดความเสียหาย และยังส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุหกล้มหรือสะดุดได้ค่ะ

    สาเหตุของการเดินเขย่งในเด็ก

    สาเหตุของการเดินเขย่งในเด็ก

    การเดินปลายเท้าเป็นเรื่องธรรมชาติในเด็กหัดเดิน และจะหยุดเดินเขย่งได้เองตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เดินเขย่งเท้าได้แก่

    – นิสัยการเดินของเด็กเอง ซึ่งไม่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่อย่างใด

    – กล้ามเนื้อน่องตึงผิดปกติ เนื่องจากกล้ามเมื้อน่องทำงานมากเกินไป

    – โรคออทิสติกและเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า โดยพบว่าร้อยละ 19 ของเด็กที่เป็นกลุ่มอาการออทิสติกจะเดินเขย่งปลายเท้าร่วมด้วยค่ะ

    – เส้นเอ็นของส้นเท้าสั้นมาแต่กำเนิด ส่งผลให้ความยากลำบากในการยืดเท้าและเดินเต็มฝ่าเท้านี้

    – โรคสมองพิการ ในบางกรณีทารกคลอดก่อนกำหนดอาจได้รับความเสียหายของเส้นประสาท ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการเดินและสุขภาพด้านอื่นๆ

    – อัมพาต เนื่องจากสมองได้รับบาดเจ็บตั้งแต่กำเนิด ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาในการยืนและเดิน 

    การรักษาอาการเดินเขย่งเท้าในเด็ก

    การรักษาอาการเดินเขย่งเท้าในเด็ก

    หากพบว่าลูกยังคงเดินปลายเท้าเมื่อสามปีหรือหากคุณพ่อคุณแม่กังวลพฤติกรรมการเดินของลูก สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นได้ค่ะ เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลลูกของคุณและการรักษาหรือการบำการเดินเขย่งปลายเท้าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเด็กๆหลายคนเมื่อเริ่มหัดเดิน และจะเดินเต็มเท้าหรือหยุดเดินเขย่งเองตามธรรมชาติ แต่ก็มีคุณพ่อคุณแม่หลายท่านเมื่อเห็นลูกเดินเขย่งปลายเท้าแล้วไม่สบายใจ ซึ่งวันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินเขย่งเท้าของเด็กมาฝากค่ะ

    บัดนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเดินเขย่งเท้าในเด็ก เพื่อป้องกันโอกาสที่จะเกิดความเสียหายต่อข้อต่อและกล้ามเนื้อค่ะ

    การเขย่งเท้าในเด็กเป็นเรื่องปกติทั่วไปไม่ก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงค่ะ นอกจากนี้คุณสามารถช่วยส่งเสริมทักษะการเดินเต็มเท้าให้ลูกของคุณได้ค่ะ โดยเริ่มจากการนวดฝ่าเท้าเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อความรู้สึกเท้า การฝึกสัมผัสบนพื้นผิวที่แตกต่าง เช่น หญ้า ทราย พื้นดิน เป็นต้น รวมถึงการเลือกรองเท้าที่เหมาะกับขนาดเท้าและน้ำหนักเบาค่ะ

  • 7 การเล่นส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

    7 การเล่นส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

    การเล่นของเด็กๆอาจดูเหมือนว่าการเล่นเป็นเพียงเรื่องสนุกเท่านั้น อันที่จริงแล้วการเล่นเป็นเวลาสำคัญสำหรับการเติบโตและพัฒนาการของเด็ก เชื่อกันว่ามันจะช่วยให้เข้าใจในตนเองมากขึ้น ความสมดุลทักษะทางด้านร่างกายและอารมณ์ เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพิ่มทักษะการแก้ปัญหา การเรียนรู้ที่จะพัฒนาความรู้สึกของตัวเอง การมีส่วนร่วมและเข้าสังคมกับผู้อื่น เป็นต้น 

    ประเภทของการเล่นสำหรับก่อนวัยเรียน

    การเล่นของเด็กไม่ว่าจะเป็นการกลิ้งลูกบอลหรือการกระทำง่ายๆล้วนมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ ความคิดสร้างสรรค์และจิตนาการของลูกน้อย และประเภทการเล่นที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการได้แก่

    การเคลื่อนไหว

    การเคลื่อนไหว

    การเล่นโดยการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น การโบกมือ การกระโดด การวิ่งเล่น การปั่นจักรยาน ฯลฯ ช่วยพัฒนาทักษะทางด้านร่างกายความสมดุลของการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย

    การเล่นคนเดียว

    การเล่นคนเดียว

    มักเป็นช่วงเด็กก่อนวัยเรียนซึ่งการเล่นคนเดียวนั้นในระหว่างการเล่น เด็กจะให้ความสนใจในสิ่งที่เล่นการหยิบจับ การสังเกตสี ลักษณะพื้นผิวต่างๆ จึงช่วยส่งเสริมพัฒนาความคิด การเรียนรู้ที่รอบตัว จินตนาการ รวมถึงการพึ่งพาตนเอง ดังนั้นการเล่นที่เหมาะสมคือ ของเล่นที่มีสีสัน ลักษณะรูปร่าง พื้นผิวที่หลากหลาย การวาดภาพระบายสี ร้องเพลงหรือเล่นดนตรี เป็นต้น

    การเล่นร่วมกับผู้อื่น 

    การเล่นคนเดียว

    เมื่อลูกอายุ 1-2 ปี การเล่นร่วมกับเด็กคนอื่นอาจเป็นเพียงการด้วยตัวเองและการโต้ตอบกันบ้าง แต่เมื่อโตขึ้นทักษะแนวคิดการเล่นกับเพื่อนๆพัฒนามากขึ้นค่ะ ดังนั้นการเล่นร่วมกับเพื่อนๆช่วยส่งเสริมทักษะทางการสื่อสาร ทักษะทางอารมณ์ความรู้สึก การแสดงออกและแก้ปัญหาต่างๆ

    การเล่นร่วมกันกลุ่ม

    การเล่นร่วมกันกลุ่ม

    เมื่อเด็กเริ่มแสดงความสนใจมากขึ้นในเด็กคนอื่นๆ การเล่นแบบมีส่วนร่วมหรือกติกาการเล่น การทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันเป็นกลุ่มช่วยเสริมทักษะการเข้าสังคม พัฒนาการทางด้านภาษา เรียนรู้การแก้ปัญาและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

    การเล่นบทบาทสมมุติ

    การเล่นบทบาทสมมุติ

    ในระหว่างกานเล่นเด็กมักจินตนาการถึงสถานการณ์หรือบทบาทของตนเอง ซึ่งช่วยเสริมทักษะทางภาษา จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ 

    การเป็นผู้ชม

    การเป็นผู้ชม

    การพัฒนาทักษะทางด้านต่างไของเด็กไม่จำเป็นเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนั้นๆ เพียงเป็นผู้ชมหรือกองเชียร์ก็สามารถส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กๆได้เช่นกันค่ะ เช่น เรียนรู้ทักษะทางภาษาจาการฟัง การสังเกต เป็นต้น

    การเล่นแบบแข่งขัน

    การเล่นแบบแข่งขัน

    เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะเล่นเกมที่มีกฎระเบียบที่ชัดเจนและแนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับการชนะและแพ้ เช่น การเล่นเกมกระดาน วิ่งแข่ง ฟุตบอล เป็นต้น การเล่นแบบแข่งขันช่วยให้เด็กเรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น การยอมรับผลแพ้หรือชนะ ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เป็นต้น

    การเล่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาของเด็ก ดังนั้นการส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยคุณพ่อคุณแม่ควรมีส่วนร่วมในการเล่นกับลูกหรือเลือกกิจกรรมและของเล่นที่เหมาะสมกับวัยของลูกน้อยค่ะ

  • ความผิดปกติทางการพูดของเด็ก

    ความผิดปกติทางการพูดของเด็ก

    สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูคุยกันในเรื่องของความผิดปกติทางด้านการพูดของเด็กกันค่ะ หลายบ้านอาจกำลังประสบปัญหาลูกพูดช้า หรือพูดไม่ชัด วันนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปหาคำตอบกันค่ะ

    ขณะที่เด็กๆเรียนรู้ที่จะพูดเป็นเรื่องปกติที่เด็กๆจะมีปัญหาในการพูด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ทักษะการพูด เมื่อเวลาผ่านไปเด็กได้เรียนรู้วิธีการพูดการออกเสียงได้อย่างถูกต้องมากขึ้นค่ะ ในเด็กที่มีความผิดปกติของเสียงพูดมีปัญหาในการสร้างเสียงคำหรือวลีที่ชัดเจนคล่องแคล่ว อาจจะเนื่องมาจากการพัฒนาทางระบบประสาท หรือความแตกต่างของโครงสร้าง เช่น ภาวะปากแหว่ง เพดานโหว่ เป็นต้น ซึ่งความผิดปกติทางด้านการพูดของเด็กที่เกิดขึ้นสามารถรักษาได้ หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆค่ะ

    ความผิดปกติเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ตั้งแต่อายุลูกก่อน 1 ปีค่ะ ซึ่งประเภทของการพูดผิดปกติในเด็กวัยหัดเดินที่พบได้บ่อย เช่น ไม่สามารถออกเสียงหรือพูดให้ชัดเจนในบางคำ ความล่าช้าของพัฒนาการด้านการพูดกว่าวัย ไม่สามารถพูดอ่านและเขียนได้ มันมักจะถูกตรวจพบในเด็กอายุเกิน 4 ปี มีปัญหาการได้ยินทำให้ไม่สามารถสื่อสารได้ค่ะ

    สาเหตุของความผิดปกติส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ ซึ่งอาจมีแนวโน้มมาจากครอบครัวที่มีประวัติการพูดไม่ชัดหรือช้า ความผิดปกติทางกายภาพ รูปปากทำให้มีอุปสรรคต่อการพูด ความผิดปกติของระบบประสาทหรืออาการบาดเจ็บที่สมอง สูญเสียการได้ยินหรือการติดเชื้อที่หูบ่อย พัฒนาการผิดปกติ เช่น ออทิสติก เด็กกลุ่มอาการดาวน์ เป็นต้น และยังพบในเด็กบางรายที่ขาดการสนับสนุนการเรียนรู้ในบ้าน ขาดการกระตุ้นทักษะการเรียนรู้หรือขาดแรงจูงใจในการสื่อสารของเด็กค่ะ

    การวินิจฉัยและการแก้ไขความผิดปกติทางการพูด

    คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ลูกอายุ 1 ปีหรือเมื่อลูกเริ่มมีปัญหาด้านการสื่อสาร เช่น การแสดงท่าทางแทนการพูด การใช้นิ้วชี้ในสิ่งที่ต้องการ ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกมาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินพัฒนาการเกี่ยวกับภาษาพูดและการสื่อสาร และในขั้นตอนแรกตรวจสอบการได้ยินของเด็กก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กได้ยินปกติ หากไม่สูญเสียการได้ยินแพทย์จะทำการประเมินความผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่น เสียงพูดไม่ชัด ความเข้าใจด้านการใช้ภาษา ฯลฯ เพื่อทำการวางแผนการกระตุ้น ฝึกทักษะการออกเสียง รวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับการดูแลส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย

    ทั้งนี้การจดจำและการสังเกตความผิดปกติของการสื่อสารของลูก แต่เนิ่นๆสามารถช่วยให้เด็กเอาชนะปัญหาการพูด พวกเขาสามารถเรียนรู้วิธีการสื่อสารอย่างชัดเจนค่ะ

  • การเดินละเมอในเด็ก

    การเดินละเมอในเด็ก

    สวัสดค่ะ คุณพ่อคุณแม่ลูกของคุณมีอาการละเมอบ้างหรือเปล่าคะ ถ้ามีและเราจะมีวิธีรับมือกับอาการละเมอของลูกๆอย่างไร วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการละเมอในเด็กเกิดขึ้นบ่อยในช่วงอายุ 4 – 8 ปีมากกว่าในผู้ใหญ่ค่ะ ซึ่งอาการละเมอนั้นเป็นภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้นในขณะที่ลูกของคุณกำลังหลับ โดยผู้ที่มีอาการจะไม่รู้สึกตัวและมีอาการมึนงงหลังรู้สึกตัวค่ะ ซึ่งจะแสดงในรูปแบบต่างๆ เช่น ละเมอเดินไปมา ลุกขึ้นนั่งลืมตา ละเมอพูดคุย หยิบสิ่งของต่างๆ ฯลฯ การนอนหลับทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงหลับตื้นและช่วงหลับลึกค่ะ และพฤติกรรมการละเมอที่เกิดขึ้นจะอยู่ในช่วงที่หลับลึก ผู้ที่มีอาการละเมอจะไม่สามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้เมื่อตื่นขึ้นมา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงก่อนเกิดเหตุ ถ้าเด็กประสบปัญหาอาการนอนไม่หลับหรือเหนื่อยล้า โอกาสของเด็กคนนั้นที่มีตอนเดินละเมอมีแนวโน้มมากกว่าปกติค่ะ

    สาเหตุของการเดินละเมอในเด็ก อาจมากจากปัจจัยเหล่านี้ เช่น

    • กรรมพันธุ์ พบว่าการเดินละเมอในครอบครัวที่มีประวัติการละเมอบ่อยครั้ง โดยเฉพาะพ่อและแม่ที่นอนละเมอ ทำให้ลูกมีโอกาสนอนละเอมเช่นกันค่ะ
    • การอดนอน นอนไม่หลับ หรือถูกรบกวนการนอนหลับเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเดินละเมอ
    • รูปแบบการนอนหลับที่ผิดปกติ ความผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจในระหว่างนอนหลับ ผลกระทบหยุดหายใจระยะเวลาสั้นๆในช่วงกลางคืน
    • การใช้สารหรือยาบางชนิด ที่ส่งผลต่อการนอนหลับของเด็ก
    • ความวิตกกังวล ความเครียดที่ส่งผลกระทบต่อเด็กๆ
    • มีประวัติอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ
    • ร่างกายทำงานไม่เป็นปกติ กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข เช่น ขาอยู่ไม่สุขเป็นอาการที่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอาจเป็นสาเหตุของการเดินละเมอ

    อาการของการเดินละเมอ

    ส่วนใหญ่เมื่อได้ยินคำว่าละเมอเดินสิ่งแรกที่คิดคือการเดินระหว่างการนอนหลับ อย่างไรก็ตามการเดินในขณะนอนหลับไม่ได้เป็นสัญญาณเดียวของความผิดปกตินี้ อาการแสดงของการละเมอที่เป็นสัญญาณที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็ก ได้แก่ นั่งขึ้นและมองไปรอบๆ พูดคุยขณะนอนหลับ แต่ไม่ตอบสนองเมื่อคุณคุยด้วย ร้องไห้ขณะหลับ หรือเดินไปเดินมารอบๆ มีพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น การเปิดหน้าต่างหรือประตูและปิด ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดซ้ำๆ เป็นต้น

    การรักษาสำหรับการเดินละเมอในเด็ก โดยทั่วไปจะหายได้เองเมื่อโตขึ้นค่ะ แต่ในบางกรณีปัจจัยที่เป็นสาเหตุของการเดินละเมอ คือยาบางชนิดควรปรึกษาแพทย์สำหรับการใช้ยานั้นๆเพื่อเปลี่ยนไปใช้ยาอื่นทดแทนได้หรือไม่ค่ะ

    การป้องกันการเดินละเมอในเบื้องต้นคุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินละเมอของเด็ก เช่น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาระยะเวลาการนอนหลับหรือเวลาเข้านอนอย่างสม่ำเสมอ สร้างบรรยากาศในห้องนอนเย็นสบายและปลอดภัย จะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นค่ะ หลีกเลี่ยงเสียงรบกวนหรือสิ่งรบกวนอื่นๆ ในตอนกลางคืนเมื่อเด็กหลับ เป็นต้น

    การเดินละเมอเป็นความผิดปกติที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ และเพื่อความปลอดภัยของลูกคุณควรหมั่นสังเกตุพฤติกรรมและจดบันทึกอาการของลูกเพื่อเข้ารับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

  • Overfeeding ในเด็กทารก

    Overfeeding ในเด็กทารก

    Overfeeding คือพฤติกรรมของลูกน้อยที่กินนมเยอะเกินไป หรือกินจนล้นกระเพาะ ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ท้องโต ท้องอืด ไม่สบายท้อง อาเจียนแวะนม เป็นต้น ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กที่ดูดนมจากเต้าและจากขวดนม วันนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มาทำความเข้าใจอาการ Overfeeding ในเด็ก รวมถึงวิธีการรับมือและการป้องกันค่ะ

    อะไรคือสาเหตุของการกินนมมากเกินไป

    โดยทั่วไปเด็กทารกจะกินนมเมื้อรู้สึกหิวและจะหยุดเมื่อรู้สึกอิ่ม ดังนั้นสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่คุณแม่บางท่าน อาจเข้าใจว่าลูกตื่นนอนหรือร้องไห้เพราะหิว หรือกังวลว่าลูกน้อยอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจึงพยายามป้อนนมในปริมาณที่มากเกินไปหรือบ่อยเกินไปค่ะ ซึ่งพบได้ทั้งเด็กที่กินนมแม่และนมผงหรือจากเต้าและจากขวดนมค่ะ แต่พบว่าเด็กที่กินนมผงมีโอกาสเสี่ยงการเกิดภาวะ Overfeeding มากกว่าเด็กที่กินแม่ เนื่องกระเพาะอาหารและลำไส้ของเด็กทารกสามารถดูดซึมสารอาหารในนมแม่ได้ดี อาการของทารกที่ได้รับอาหารมากไป ส่วนใหญ่สามารถสังเกตได้ค่อนข้างง่าย เช่น ร้องไห้งอแง อึดอัดแน่นท้องหรือรู้สึกไม่สบายท้อง แหวะนมมากกว่าปกติและอาจถ่ายเหลวร่วมด้วย เป็นต้น

    Overfeeding ในเด็กทารกอันตรายอย่างไร

    การกินนมอิ่มมากเกินไปหรือล้นกระเพาะในเด็กทารกนั้น มีผลกระทบต่อตัวลูกน้อยมากที่สุดคือ อึดอัดไม่สบายตัว ร้องไห้งอแง การแหวะนม แต่ถึงอย่างไรก็มักจะส่งผลกระทบในระยะยาวได้เช่นกันค่ะ เช่น โรคอ้วน เนื่องจากร่างกายอาจมีการปรับตัวเพื่อรับสารอาหารและเริ่มกักเก็บสารอาหารไขมัน ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นหรือเกินเกณฑ์ตามแต่ละช่วงวัย ส่งผลให้เป็นโรคอ้วนในเด็กได้ และอาจตามมาด้วยโรคอื่นๆได้ค่ะ

    การป้องกันการให้อาหารมากไปในเด็ก โดยเคล็ดลับง่ายๆเพื่อการลดโอกาสเสี่ยงที่จะให้เกิดการให้นมลูกน้อยมากเกินไป ได้แก่

    • การให้กินนมในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งทั่วไปการกินนมในปริมาณ 4 ออนซ์ ลูกจะอิ่มท้องประมาณ 4 ชั่วโมง
    • ลูกกินนมเพียงพอในหนึ่งวันหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากจำนวนการปัสสาวะของเด็ก 6 ครั้งในหนึ่งวัน หรืออุจจาระ 2 ครั้งในหนึ่งวัน เป็นต้น
    • สังเกตอาการหรือสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกน้อยอิ่ม คือ เบือนหน้าหนี การดูดนมช้าลงหรือเว้นช่วงการดูดนานขึ้น เป็นต้น
    • อย่าพยายามเลี้ยงลูกด้วยการให้กินนมทันทีที่เขาเริ่มร้องไห้ เนื่องจากการร้องไห้อาจแสดงถึงอาการอื่นได้

    การให้อาหารมากไปเด็กทารกแรกเกิดเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องตระหนักถึงและให้ความสำคัญค่ะ เพราะอาจนำไปสู่อาการหรือโรคอื่นๆได้ค่ะ

  • การดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด

    การดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด

    การคลอดก่อนกำหนด คือการคลอดทารกตัวน้อยที่อายุครรภ์ไม่ถึง 37 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกมีความบอบบางมาก การเจริญเติบโตของร่างกายการทำงานของอวัยวะต่างๆยังไม่สมบูรณ์ และต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ หากแพทย์วินิจฉัยแล้วไม่มีภาวะแทรกซ้อนก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ค่ะ ดังนั้นบทความนี้จึงรวบรวมการดูแลลูกน้อยที่คลอดก่อนกำหนดหลังกลับมาอยู่ที่บ้านค่ะ

    การดูแลทารกคลอดก่อนกำหนดเมื่อกลับถึงบ้าน สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัยคือ สุขอนามัยเพราะทารกคลอดก่อนกำหนดมีโอกาศที่จะติดเชื้อมากกว่าเด็กที่คลอดตามกำหนดค่ะ รวมถึงการดูแลในด้านต่างๆ ได้แก่
    – ทำความสะอาดบ้านทุกวัน จัดห้องให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น
    – ห้ามผู้ที่มีไข้หวัด ไอ หรือติดเชื้อไวรัสเข้าห้อง หรือใกล้ชิดลุกน้อย
    – คุณพ่อคุณแม่ หรือญาติพี่น้อง ควรทำความสะอาดมือก่อนที่จะสัมผัสลูกน้อย
    – ให้ลูกน้อยทานนมทุก 2-3 ชั่วโมง (ปริมาณตามคำแนะนำของแพทย์)
    – ให้ลูกน้อยเรอทุกครั้งหลังกินนม เพื่อไม่ให้อาเจียนออกมา
    – การอาบน้ำควรอาบวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอค่ะ และควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นและสบายตัวค่ะ
    – การนวดสัมผัสลูกน้อย โอบกอด พูดคุย เพื่อกระตุ้นการพัฒนาการให้กับทารก
    – ไปพบแพทย์ตามกำหนดทุกครั้งค่ะ
    – ระวังเรื่องการหายใจของลูกน้อย หากพว่าทารกมีการน้ำมูก เสมหะ หายใจไม่สะดวก มีเสียงครืดคราด หรือหายใจอกบุ๋ม คุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกน้อยไปพบแพทย์โดยด่วยค่ะ
    – ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ

    สิ่งที่สำคัญของการดูแลทารกคลอดกำหนดนั้น คือการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งหากพบอาการผิดปกติหรือสงสัยว่าลูกน้อยเป็นอะไร ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิฉัยและการรักษาที่ทันท่วงทีค่ะ

https://smpseraphinebaktiutama.sch.id/

https://www.ijte.net/ toto 4d slot88 https://ijes.istes.org/ https://www.bestdergi.net/ https://pafimalangbong.org/ https://hmjcr.co.in/ https://himpsisumatera.org/ https://himpsibangkabelitung.org/ https://hipmikepseribu.org/ https://sofs.org.ua/ https://himpsimalut.org/ https://himpsimalut.org/ https://himpsijembrana.org/ https://himpsidenpasar.org/ https://www.part4d.com/ http://www.cialbuy.com/ https://www.tihamah.net/ https://quantumjuggling.com/ https://pollmyspace.com/ https://atle-bolivia.org/

https://journal.infopolis.gr/

https://ijonse.net/

https://insightsjhr.com/

https://cafeenglish.org/ https://www.istes.org/ https://insightsjlss.com/ https://globalarchives.in/ http://superkiway.com/

slot999

slot bet 200

toto jitu sgp

toto 4d

Slot Bet 200

cerita 18+

https://faktanyabola.id/

slot gacor 2025

prediksi togel

slot88

SLOT777

SLOT THAILAND

slot bet 200

MATAUANGSLOT

MATAUANGSLOT

https://pafigalungung.org/

Link Slot Gacor

Slot RP APK Gacor

MPO SLOT 88

Situs Alternatif Mpo Slot

Mpo Slot Mudah Maxwin

MPO SLOT 88 Gacor

Slot88

Slot 777

slot bet kecil

situs toto

situs toto

matauangslot

slot777

situs toto

situs toto

toto 4d

slot88

slot777

scatter hitam

https://www.prasetiyamulya.org/

https://togelmatauang.com/

https://slotvipmatauang.com/

https://folsomfelines.org/

https://68.183.224.199/

https://frenchysymphony.com/

https://lunetwork.org/

https://formationsantedroit.org/

https://teamromany.com/

https://hidetanakake.com/

https://profheshamsalaheldin.com/

https://neighboursreview.com/

https://brittanygilbertdesign.com/

https://menlotool.com/

https://leadnepal.com/

https://toyotasuphanburi.com/

https://cospicuascouts.org/

https://nwaeast.org/

https://lhjhkxclinxia.com/

https://cafeelemani.com/

https://arbeloproperty.com/

https://vorousviewvie.com/

https://guvenlikisilani.com/

https://federationbeninbasket.com/

https://mahlerrecords.com/

https://yourhappinessquest.com/

https://thoriumxtablet.com/

https://ellahathaun.com/

https://comiteproanimal.org/

https://krilamusic.com/

https://robert-grenier.com/

https://bedtimebuy.com/

https://homeosoins.com/

https://iglesiacccvmalaga.org/

https://munongogodefroid.com/

https://indieoteque.com/

https://pulselifemag.com/

https://inspirationmatters.org/

https://darpinostudiogallery.com/

https://dpna-digital.com/

https://archivofotografiaurbana.org/

https://man1kotamadiun.sch.id/

https://universitaspertamina.id/

https://journals.aloysianpublications.com/

https://upm.stkippgrisumenep.ac.id/ https://failoften.net/ https://bpindonesia.com/ https://profngoerahhospitalbali.org/

Situs Toto Macau

> https://profngoerahhospitalbali.org/ https://www.rsubj.org/ https://www.lesprivatinsan.org/

slot dana

https://pecindonesia.id/

https://newprimagama.id/

https://balimedhospital.id/

https://baliroyalhospital.id/

https://rscitrahusada.id/

https://rsia-grhabunda.id/

https://rsmramata.id/

https://rsroyaltaruma.id/

https://changinternationalcircuit.com/

https://www.vansthailand.com/

https://kingpowerbangkok.com/

https://erawanhotel.org/

slot dana

slot bet 200

slot dana

slot dana

slot dana

slot dana

matauangslot

FOR4D

slot dana

https://pafinabirekota.org https://pafisiakkota.org https://pafikabsentani.org

matauangslot

slot777

slot dana

slot dana

slot dana

https://www.pusatmeki.com/ https://vaporivape.com/

https://ijonest.net/

https://medscicatalyst.org/

https://howj.org/

https://fucjef.net/

https://cefuturopdl.org/

https://ijres.net/

https://ijemst.com/

https://ijonses.net/

slot88

slot777

slot dana

slot dana

https://himpsisulut.org/

https://himpsisultenggara.org/

https://himpsipapuateng.org/

https://himpsipalu.org/

https://himpsipontianak.org/

https://himpsiambon.org/