จุกหลอกอุปกรณ์สำหรับเด็กเล็กชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก มีลักษณะเป็นจุกนมที่ผลิตจากยางและซิลิโคน เพื่อช่วยผ่อนคลายให้ลูกน้อยหลับง่ายขึ้นค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่าจุกนมหลอกมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ก่อนตัดสินใจเลือกใช้จุกหลอกเพื่อให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อลูกน้อยของคุณ
ข้อดีของจุกหลอก
- ช่วยปลอบลูกน้อยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ เนื่องจากเด็กบางคนมีความสุขหรืออารมณ์ดีขึ้นเมื่อดูดอะไรบางอย่าง รวมถึงสามารถป้องกันการดูดนิ้วได้
- ช่วยให้ลูกน้อยของคุณหลับง่ายหรือนานมากขึ้น เนื่องจากการดูดบางสิ่งทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลินค่ะ
- ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจหรือลดความฟุ้งซ่านชั่วคราวได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องไปหาหมอฉีดวัคซีนค่ะ
- ช่วยลดอาการหูอื้อหรือปวดหูในขณะขึ้นเครื่องบินกำลังขึ้นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความดัน เนื่องจากการดูดบางจะช่วยปรับระดับความดันภายในหูได้ค่ะ
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจาก ภาวะไหลตายในเด็กทารก(SIDS) การดูดจุกนมหลอกก่อนนอนสามารถช่วยลดความเสี่ยงของ SIDS ได้ค่ะ
ข้อเสียของจุกหลอก
ผลกระทบข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากจุกหลอก ได้แก่ ปัญหาในช่องปาก เช่น ฟันหน้ายื่นผิดรูปหรือฟันขึ้นผิดปกติ ฟันผุ เป็นต้น การดูดจุกหลอกโดยไม่มีการทำความสะอาดที่ถูกต้องเหมาะสมส่งผลให้เสี่ยงต่อการป่วยได้ง่ายหรือติดเชื้อในหูชั้นกลาง เนื่องจาก จุกหลอกอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่างๆค่ะ นอกจากนี้ยังเกิดอันตรายได้จากการใช้จุกหลอกชำรุดอาจทำให้อุดกลั้นทางเดินหายใจทำให้หายใจไม่ออกได้ค่ะ จุกหลอกไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับรองมาตรฐาน (มอก) และมีสารบีพีเอ (BPA free) สารเคมีในพลาสติกมีผลต่อสมองค่ะ
การเลือกและการใช้จุกหลอกสำหรับเด็ก อย่างถูกวิธี
- เลือกให้เหมาะกับช่วงอายุและปากของลูกน้อย
- จุกหลอกที่ได้รับรองมาตรฐาน (มอก)
- มีสารบีพีเอ (BPA free)
- จุกหลอกควรมีรูระบายอากาศ เพื่อให้อากาศผ่านได้ง่าย
- แป้นจุกหลอกไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป เนื่องจากอาจกดทับจมูกของลูกน้อยในขณะดูดจุกนมหลอกได้ค่ะ
- หลีกเลี่ยงการใช้สายคล้องจุกหลอกกับคอของลูกน้อย เพราะอาจรัดคอจนขาดอากาศหายใจได้ค่ะ
- ห้านนำจุกหลอกแช่ตู้เย็นโดยเฉพาะช่องแช่แข็ง เพราะอาจทำให้จุกแข็งตัวและเปราะแตกหรือฉีดขาดได้ง่ายค่ะ
นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดเป็นประจำเนื่องจากเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคค่ะ และไม่ควรหลอบจุกหลอกด้วยน้ำหวานหรือน้ำผึ้ง เพราะในระยะยาวจะทำให้ดูติดรสหวานและฟันผุได้ค่ะ อีกทั้งน้ำผึ้งเป็นอันตรายต่อเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคโบทูลิซึ่มในเด็กได้ค่ะ
Leave a Reply