Tag: แพ้อาหาร

  • ลูกไม่ยอมกินข้าว ทำอย่างไร

    ลูกไม่ยอมกินข้าว ทำอย่างไร

    ลูกไม่ยอมกินข้าว ลูกกินยาก เป็นอีกปัญหาสำหรับหลายๆครอบครัว ซึ่งปัญหานี้เกิดได้จากสาเหตุที่แตกต่างกันไปค่ะ และอาจส่งผลต่อสุขภาพและการเจริญเติบโตของเด็กๆค่ะ

    สาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมกินข้าวหรือเลือกกิน

    • สุขภาพ อาการเจ็บป่วยบางอย่างอาจส่งผลให้ลูกของคุณรับประทานอาหารลำบาก เช่น ไข้หวัด เจ็บคอ แผลในปาก ท้องเสีย ท้องผูก กรดไหลย้อน เป็นต้น ซึ่งควรพบแพทย์เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยค่ะ
    • แพ้อาหารบ้างชนิด ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องอืด ปวดท้อง ทำให้ไม่ยากกินข้าวค่ะ
    • การเลือกกินอาหาร ซึ่งมักเป็นพฤติกรรมของเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป เนื่องจากสามารถปฏิเสธสิ่งต่างๆได้แล้ว เลือกในสิ่งที่ตนเองคุ้นชินหรือต้องการเท่านั้น
    • สิ่งเร้ารอบข้าง เช่น เสียงเด็กเล่นกัน เสียงโทรทัศน์ ทำให้สนใจในสิ่งนั้นมากกว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่หรือการกินข้าวค่ะ
    • กินขนมก่อนมื้ออาหาร หรือกินสิ่งอื่นแทนข้าว ทำให้ลูกรู้สึกอิ่มและไม่อยากทานข้าว
    • ใช้เวลากินข้าวนาน ซึ่งมักเกิดจากการเล่นไปด้วยกินไปด้วย ในระยะยาวอาจส่งผลให้ลูกขาดวินัยในเรื่องของการรับประทานอาหาร
    • โดนกดดัน บีบบังคับกินข้าว รวมถึงตัวอย่างการกินที่ไม่ดี

    ข้อควรรู้เมื่อลูกถึงวันอาหารเสริม

    โดยทั่วไปเด็กๆจะเริ่มรับประทานอาหารเสริมอื่นๆเมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยแบ่งเป็นลักษณะความสำคัญ ดังนี้

    • 6 – 12 เดือน นมควรเป็นอาหารหลัก และข้าวหรือผลไม้ควรเป็นอาหารเสริม
    • 12 เดือนขึ้นไป ควรให้ลูกทานข้าว 3 มื้อเป็นอาหารหลัก และนมควรเป็นอาหารเสริมแทนค่ะ
    • อาหารมื้อแรงคุณแม่สามารถเริ่มให้อาหารครบ 5 หมู่ได้เลยค่ะ 
    • หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานค่ะ เพราะจะทำให้ลูกติดหวาน ไม่กินข้าวได้ค่ะ

    การแก้ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าวหรือกินยาก

    การแก้ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าวสามารถแก้ไขได้ค่ะ โดยเริ่มจากคุณพ่อคุณแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดี อดทน ใจเย็น จริงจัง และฝึกวินัยในการรับประทานอาหารค่ะ เข่น

    • นิสัยกินง่ายสร้างได้ตั้งแต่อาหารมื้อแรกที่ลูกเริ่มกินอาหารเสริมค่ะ เช่น กำหนดเวลาการรับประทานอาหาร นั่งกินเป็นที่ไม่เล่นไปกินไปค่ะ อาหารมื้อหลักและอาหารว่างควรห่างกันอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เป็นต้น
    • สร้างบรรยากาศที่ดีตอนกิน หลีกเลี่ยงการดูโทรศัพท์ โทรทัศน์ เพราะอาจทำให้ลูกสนใจสิ่งที่ดูมากกว่าการเรียนรู้ว่านี่คือเวลาที่ต้องกินข้าวค่ะ
    • ปรับเปลี่ยนอาหารให้ดูน่าสนใจ สีสันของอาหารสามารถดึงดูดเด็กๆได้ค่ะ
    • ให้ลูกได้หยิบทานเองบ้าง คุณแม่ป้อนบ้าง และอาจจะกำหนดให้ทานมื้อละ 15-20 นาที เมื่อครบแล้วก็ให้เก็บเลยค่ะ
    • ไม่ควรกินขนมระว่างมื้ออาหารค่ะ
    • ไม่ควรบังคับให้กินข้าว ไม่บังคับยัดเหยียดให้ลูกทานอาหารในแต่ละมื้อมากเกินไป หรือสั่งให้ทานในตอนที่ยังไม่หิว(ซึ่งอาจเกิดการการให้กินอาหารระว่างมื้อ)

    ลูกกินน้อย กินยาก สิ่งที่ต้องกังวล

    เมื่อลูกเลือกกินอาหารสิ่งที่คุณแม่ต้องหมั่นสังเกตและตรวจสอบเสมอคือพัฒนาการของน้ำหนักและส่วนสูงค่ะ ในปัจจุบันพบว่าเด็กไทยมีปัญหาน้ำหนักเกินมากถึง 15-20% ค่ะ โดยเฉลี่ยน้ำหนักของในเด็ก ได้แก่

    • อายุ 0 – 3 เดือน อัตราน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือน 600-900 กรัม
    • อายุ 4 – 6 เดือน อัตราน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือน 450-600 กรัม
    • อายุ 7 – 12 เดือน อัตราน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือน 300 กรัม
    • อายุ 1 ปี น้ำหนักจะขึ้นเฉลี่ยปีละ 2 กิโลกรัม

    เมื่อลูกไม่ยอมกินข้าวบ่อยๆ อาจไร้รับสารอาหารต่างๆไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโต เจ็บป่วยได้ง่ายค่ะ ดังนั้น ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าวควรเริ่มจากพ่อแม่หรือผู้ที่เสี้ยงดูค่ะ ค่อยๆปรับและแก้ให้ตรงกับลูกของคุณค่ะ แอดมินเป็นกำลังใจให้สำหรับท่านที่กำลังมีปัญหาลูกไม่กินข้าวนะคะ

    บทความเกี่ยวข้องกับ ลูกไม่ยอมกินข้าว

  • ผดผื่นบนใบหน้าของทารก

    ผดผื่นบนใบหน้าของทารก

    ผดผื่นบนผิวหนังของลูกปัญหากวนใจให้กับคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยไม่ใช่น้อย เนื่องจากผิวหนังของลูก โดยเฉพาะเด็กทารกแรกเกิดยังมีความบอบบางอยู่มาก พร้อมที่แพ้ได้ตลอดเวลาหากมีอะไรมาสัมผัสผิวของลูกน้อย ผด ผื่น มีอยู่หลายชนิด และสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งร่างกาย แต่สำหรับในครั้งนี้เราจะมีทำความรู้จักเกี่ยวกับผื่นที่มักจะเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าว่ามีชนิดใดบ้าง ลักษณะเป็นอย่างไร ตลอดจนวิธีการรักษาและบรรเทาอาการของผดผื่น

    โดยปกติแล้วผดผื่นบนใบหน้าของทารกมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ส่วนมากมักไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เอง แต่ก็มีบางชนิดหากเกิดขึ้นแล้วอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงได้ ดังนั้นเพื่อความแน่ใจคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตุการเกิดผื่นและสังเกตุอาการของลูกควบคู่ไปด้วยกัน หากไม่แน่ใจควรพาลูกพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยต่อไปค่ะ

    ผดผื่นที่เกิดขึ้นบ่อยบนใบหน้าทารก

    ผดผื่นร้อน

    ผดผื่นร้อนจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง ตุ่มใสแดงและมีหนองร่วมด้วย มักจะเกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ (occlusion of eccrine sweat duct) มักจะเกิดขึ้นในบริเวณแขน ขา และบริเวณใบหน้า ซึ่งผดผื่นร้อนสามารถหายเองได้ โดยการที่คุณแม่หมั่นอาบน้ำให้ลูกบ่อยๆ และควรที่จะให้ลูกอยู่ในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศได้สะดวก

    ผื่นแดง

    ผื่นแดงจะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงนูน คล้ายยุงกัด มีอาการคันหรือไม่ก็ได้ มักจะเกิดขึ้นบริเวณข้อพับต่าง แขน ขา และเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าได้ ส่วนมากจะพบมากในเด็กแรกเกิด ผื่นแดงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่เกิดขึ้นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระบบภูมิคุ้มกันของเด็กทารก ซึ่งผื่นชนิดนี้สามารถหายได้เลยภายใน 2-4 สัปดาห์

    ผื่นทารก

    ผื่นทารกจะมีลักษณะเป็นตุ่มใส เพียงอย่างเดียวเกิดจากการอุดตันที่รูขุมขน จะเกิดขึ้นในบริเวณใบหน้า และตามแขนขา ซึ่งผื่นทารกสามารถลามไปส่วนอื่นได้เนื่องจากน้ำใสๆที่อยู่ในตุ่มถ้าแตกจะทำให้เกิดการรุกลามแพร่กระจาย ดังนั้นคุณแม่ต้องพยายามไม่ให้ลูกไปเกาแกะ ผื่นนี้สามารถหายได้เอง และรอยแผลที่เป็นจะจางหายไปตามธรรมชาติ

    สิวทารก หรือสิวฮอร์โมน

    สิวทารก หรือสิวฮอร์โมน จะมีลักษณะเป็นตุ่มหนองเหมือนสิวอักเสบหรือสิวหัวช้างของผู้ใหญ่ เกิดจากการที่ต่อมไขมันบนใบหน้าของลูกถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมน มักเกิดบริเวณใบหน้า หรือบริเวณ T zone แต่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด คุณแม่จึงไม่จำเป็นที่จะไปบีบเอาหนองออก

    ผื่นมิเลีย

    ผื่นมิเลียจะมีลักษณะตุ่มสีขาวขุ่น เกิดจากโปรตีนที่อยู่บริเวณชั้นผิวหนังมีมากกว่าปกติ มักจะเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า หากใช้มือสะกิดก็สามารถหลุดร่วงได้ง่าย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ผื่นมิเลียไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด สามารถหายเองได้เมื่อเด็กมีอายุ 1 เดือน แต่บางรายอยู่จะอยู่ถึง 3 เดือน

    สาเหตุที่พบบ่อยของผื่นบนใบหน้าของทารก ได้แก่

    แพ้อาหาร

    แพ้อาหาร

    ผื่นสามารถตอบสนองต่ออาหารที่ลูกของคุณอาจแพ้ได้ กระตุ้นให้เกิดการแพ้และสามารถถ่ายโอนไปยังทารกผ่านทางนมแม่ได้เช่นกันค่ะ

    ปฏิกิริยาทางเคมี

    ปฏิกิริยาทางเคมี

    ผื่นแพ้จากผงซักฟอกหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้า ที่นอนหรือที่สัมผัสกับลูกน้อย รวมถึงผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ทำให้เกิดผื่นขึ้นได้ค่ะ

    สภาพภูมิอากาศ

    สภาพภูมิอากาศ

    เนื่องจากผิวที่บอบบางซึ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโดยรอบได้ทันที โดยเฉพาะอากาศร้อนเนื่องจากเหงื่อออกมากทำให้รูขุมขนอุดตันและส่งผลให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย

    เชื้อแบคทีเรียต่างๆจากการสัมผัส

    เชื้อแบคทีเรีย

    โดยเฉพาะมือหรือเสื้อผ้าของคุณที่สัมผัสกับผิวของลูกน้อยที่บอบบางทำให้เกิดผืนแพ้ได้ง่ายขึ้นค่ะ

    การรักษาผื่นบนใบหน้าของทารก 

    โดยส่วนใหญ่ผื่นที่เกิดขึ้นมักหายได้เองตามธรรมชาติ และไม่มีวิธีรักษาโดยเฉพาะเจาะจง หากทารกมีผื่นแดงบนใบหน้าสิ่งแรกที่คุณควรทำคือลดอาการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผื่นแพร่กระจายหรือรุนแรงมากขึ้น โดยทำให้บริเวณที่มีผดผื่นขึ้นสะอาดและแห้งซึ่งใช้การซับแทนการถูไปมา เพราะการถูอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นแผลมากขึ้นได้ค่ะ แต่ในกรณีที่รุนแรงหรือมีการแพร่กระจายของผื่น ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

    การบรรเทาผื่นบนใบหน้า

    การบรรเทาผื่นบนใบหน้า

    ผื่นส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบนใบหน้าสามารถดูแลและบรรเทาได้เองที่บ้านด้วยวิธีง่ายๆดังต่อไปนี้

    • น้ำแข็ง การใช้น้ำแข็งเพื่อลดอาการระคายเคือง บรรเทาอาการคันได้ โดยการห่อก้อนน้ำแข็งกับผ้าสะอาดและวางลงบนบริเวณผิวที่มีผดผื่นขึ้นจากนั้นซับให้แห้งค่ะ
    • แป้งลดผดผื่นคันสำหรับเด็ก ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนให้ใช้ค่ะเพราะแป้งบางชนิดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ค่ะ
    • น้ำนมแม่ นอกจากจะมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยแล้วยังสามารถรักษาผดผื่นได้ค่ะ โดยทาบริเวณที่เกิดผดผื่นขึ้นค่ะ

    ผื่นที่เกิดขึ้นอาจรุนแรงได้หากไม่รักษาสุขอนามัยที่เหมาะสมค่ะ ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวลูกน้อยค่ะ หากมีผดผื่นที่สร้างความสงสัยหรือคุณพ่อคุณแม่กังวลสามารถขอคำแนะนำจากแพทย์ได้ค่ะ

    บทความที่เกี่ยวข้อง

  • ลูกอาเจียนบ่อย เสี่ยงเป็นโรคร้าย

    ลูกอาเจียนบ่อย เสี่ยงเป็นโรคร้าย

    อาเจียน (Vomit) หรืออ้วก เป็นลักษณะของอาการอย่างหนึ่งซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การรับประทานอาหารมากเกินไป ความเครียด เมารถ โรคของทางเดินอาหาร โรคเนื้องอกในสมอง เยื้อหุ้มสมองอักเสบ หรืออาจเป็นข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด โดยทั่วไปมักไม่พบอาการที่รุนแรงสามารถรักษาให้ดีขึ้นเองได้ โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ แต่ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการอาเจียนที่อาจเกิดจากโรคร้ายแรงในเด็กค่ะ 

    อาการอาเจียนบ่อยๆในเด็กเป็นที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยผ่านไปค่ะ ควรต้องรีบหาสาเหตุเพื่อรับรักษาที่ถูกต้องรวดเร็วค่ะ เพราะการอาเจียนบ่อยอาจมีสาเหตุมาจากโรคร้ายแรงได้ค่ะ 

    • โรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบหรืออุดตัน มักมีอาการอาเจียนร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ไข้สูง เบื่ออาหาร ท้องเสียหรือท้องผูก เป็นต้น หากปล่อยไว้จะทำให้ร่างกายลูกขาดน้ำและสารอาหารอย่างรุนแรงค่ะ
    • แพ้อาหาร สามารถทำให้เกิดอาการอาเจียนในเด็กพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ผื่นลมพิษ อาการบวมที่ใบหน้า รอบดวงตา ริมฝีปาก ลิ้น หรือเพดานปาก หายใจลำบาก เป็นต้น ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายมากหากลูกมีอาการแพ้รุนแรงอาจทำให้ช็อกหมดสติและเสียชีวิตได้ค่ะ
    • ภาวะของกรดไหลย้อน สำลักอาหารซึ่งเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งมีสาเหตุจากการรับประทานอาหารมากเกินไปจนล้นกระเพาะค่ะ ทำให้เกิดการอาเจียนหรือสำลักออกมามักพบในเด็กทารกที่มีอาการสำลักนมบ่อยๆ หากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ปัญหาการหายใจและปวดท้องรุนแรงได้ค่ะ
    • โรคของสมองและระบบประสาท มักเกิดขึ้นในกรณีที่มีการอาเจียนติดต่อกันรุนแรง ส่งผลให้เกิดความดันในสมองสูงและโรคไมเกรน เด็กที่มีอาการอาเจียนจากโรคที่เกี่ยวข้องกับสมองและระบบประสาท เช่น ภาวะติดเชื้อในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฯลฯ มักมีอาการอาเจียนพุ่ง ร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ ชัก กระหม่อมโป่งตึง เป็นต้น อันตรายต้องได้รับการรักษาโดยด่วนค่ะ

    อาการอาเจียนผิดปกติที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวังและพบแพทย์ทันที ได้แก่

    • เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน เพราะสังเกตหรือระบุอาการได้ยากว่าในเด็กโต 
    • เซื่องซึม อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือในบางรายอาจดูกระสับกระส่ายสลับกับอาการซึม
    • การเต้นของหัวใจหรือชีพจรค่อนข้างเบาหรือเร็วเกินไป
    • มีอาการชัก หรือกระหม่อมหน้าบุ๋มลึก หรือมีกระบอกตาลึก ริมฝีปากแห้ง
    • ผิวหนังเหี่ยวย่น แห้งๆไม่สดใส
    • ปัสสาวะน้อย ในเด็กเล็กสังเกตได้จากผ้าอ้อมลูกไม่มีปัสสาวะเปียกเลยหลายชั่วโมง

    การดูแลลูกอาเจียนบ่อย

    การดูแลรักษาอาการอาเจียนในเด็ก

    • ลูกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ควรพาลูกไปพบแพทย์เนื่องจากในเด็กเล็กสังเกตอาการได้ค่อนข้างยาก และมักเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้ง่ายกว่าช่วงวัยอื่น
    • เด็กที่อาเจียนไม่มากหรือไม่มีอาการอื่นๆร่วมด้วย สามารถดูแลเองได้ที่บ้านโดยการรับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย และจิบน้ำเกลือแร่บ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
    • เด็กที่อาเจียนมากหรือรุนแรง ต้องพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของการอาเจียนที่ถูกต้อง และรับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ

    อาเจียนหรืออ้วกเป็นอาการหนึ่งไม่ใช่โรคค่ะ จึงจำเป็นต้องได้รับวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการจากแพทย์ผู้เชียวชาญ เพราะการอาเจียนอาจมีสาเหตุมาจากโรคร้ายแรงได้ค่ะ หากสงสัยควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีเพื่อการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

  • โรคภูมิแพ้

    โรคภูมิแพ้

    โรคภูมิแพ้พบได้บ่อยในเด็กเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ การแพ้เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ไรฝุ่น เกสร ขนสัตว์เลี้ยง พิษจากแมลง รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร อาการแพ้ทำให้เกิดอาการไม่รุนแรงจนถึงอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ บทความนี้เรารวบรวนข้อมูลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้มาฝากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือดูแลและป้องกันโรคภูมิแพ้ที่อาจเกิดขึ้นกับลูกน้อยของคุณ

    โรคภูมิแพ้เป็นโรคยอดนิยมที่พบในเด็ก เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันการเจือปนของสาร ฝุ่น ควันต่างๆในอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมือง ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานเพิ่มขึ้น รวมถึงการเจริญเติบโตระบบต่างๆของร่างกายเด็กยังไม่สมบูรณ์เท่าในผู้ให้ ทำให้เพิ่มโอกาสในการเจ็บป่วยในง่ายขึ้นค่ะ อาการแพ้ต่อสารที่พบมาก ได้แก่ ภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้แมลงสัตว์กัดต่อย ภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งสาเหตุของการแพ้และแสดงอาการแพ้ที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปจะเกิดการแพ้หลังจากการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ดังนี้

    ภูมิแพ้อาหาร เป็นโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก เช่น แพ้นมวัว แพ้ถั่วลิสง เป็นต้น ซึ่งอันตรายใกล้ตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ ในบางรายมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต อาการแพ้อาหารจะแสดงอาการต่างๆในหลายระบบของร่างกาย ได้แก่ อาการแพ้ที่แสดงต่อผิวหนัง มีอาการคัน ผื่นขึ้นทั้งตัวหรือเป็นบางส่วนของร่างกาย อาการแพ้ที่แสดงต่อระบบทางเดินอาหาร ซึ่งพบได้ตั้งแต่ อาเจียนบ่อย ท้องผูก ท้องอืด ท้องเสียหรือถ่ายเป็นมูกเลือด ฯลฯ และอาการแพ้ที่แสดงต่อระบบทางเดินหายใจ มีอาการตั้งแต่คัดจมูก คันตา น้ำมูกไหล ไอ จนกระทั่งเป็นปอดอักเสบ การอุดกั้นทางเดินหายใจ และสามารถเกิดพร้อมกันได้ทุกระบบค่ะ

    ภูมิแพ้อากาศ หรือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เกิดจากภูมิแพ้เยื่อบุภายในโพรงจมูก เป็นอากาศที่เกิดขึ้นระบบทางเดินหายใจ หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็วส่งผลต่อโพรงจมูกในการหายใจ การอักเสบของเยื่อบุจมูกโดยการหายใจเอาสารก่อภูมิแพ้เข้าไป และสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ทำให้เกิดอาการแพ้คือ อาการคันรอบดวงตา บวมทั่วใบหน้า จมูก หรือลำคอ คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ อาจมีไข้ร่วมด้วยค่ะ 

    ภูมิแพ้ผิวหนัง หรือภูมิแพ้แมลงสัตว์กัดต่อย เกิดจากการอักเสบของผิวหนังบริเวณที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หรือพิษของสัตว์ที่ได้รับ ก่อให้เกิดอาการคัน ผื่นบวมแดงหรือตุ่มอักเสบขึ้น หากเกาจะทำให้เป็นแผลลุกลามเป็นวงกว้างได้ค่ะ

    การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้นั้น เริ่มต้นจากประวัติเบื้องต้นของผู้ป่วย ครอบครัว สิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย เนื่องจากโรคภูมิแพ้โดยส่วนใหญ่พบในครอบครัวที่มีประวัติการป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ เพื่อประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ และการวินิจฉัยด้วยชุดทดสอบภูมิแพ้ เพื่อทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนังโดยหยดสารก่อภูมิแพ้ลงบนผิวหนัง หากผู้ป่วยแพ้ต่อสารใดบริเวณที่ถูกสารนั้นจะมีตุ่มนูนแดงปรากฏขึ้นมาภายในเวลาประมาณ 20 นาที แสดงว่าลูกน้อยแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นๆ และการวินิจฉัยยังสามารถทำได้ด้วยการตรวจเลือด เพื่อทำการตรวจหาแอนติบอดีที่เกี่ยวข้องกับการแพ้ค่ะ

    การรักษาโรคภูมิแพ้นั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปฏิกิริยาการแพ้ที่เกิดขึ้น ในกรณีที่ลูกมีอาการแพ้เกิดขึ้นควรรีบพบแพทย์ค่ะ เพื่อประเมินอาการเบื้องต้นซึ่งหากอาการไม่รุนแรงแพทย์จะทำการรักษาด้วยการทานยาแก้แพ้ ยาทานแก้ผื่นคัน ฯลฯ  หากมีอาการแพ้แบบเฉียบพลันรุนแรงต้องได้รับยาขยายหลอดลม เพื่อป้องกันภาวะการอุดกั้นทางเดินหายใจ เป็นต้น

  • แพ้แป้งสาลีในเด็ก

    แพ้แป้งสาลีในเด็ก

    อาการแพ้สิ่งต่างๆในเด็กพบได้ทั่วไป เช่น แพ้นมวัว แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี เป็นต้น จากที่เคยกล่าวไปแล้วหลายบทความ และบทความนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับการแพ้แป้งสาลีในเด็ก การดูแลป้องกันและการรักษาอย่างไรบ้าง ตามมาเลยค่ะ

    การแพ้แป้งสาลีในเด็กเกิดขึ้นเมื่อร่างกายตอบสนองต่อโปรตีนที่พบในข้าวสาลีผ่านกลไกทางภูมิคุ้มกันของร่างกาย อาจเกิดจากการรับประทานข้าวสาลีหรือการสูดดมแป้งสาลีเข้าไป ปัจจุบันแป้งสาลีมักเป็นส่วนประกอบอาหารหลากหลายชนิด เช่น เบเกอรี่ พาสต้า สปาเก็ตตี้ ซาลาเปา มันฝรั่งทอด โรตีสายไหม ขนมกรอบบางชนิด ฯลฯ ปัจจัยที่ทำให้เด็กเสี่ยงต่อการแพ้แป้งสาลี ได้แก่ พันธุกรรม ปัจจัยทางด้านอายุเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของเด็กเล็กยังไม่แข็งแรงสมบูรณ์เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมต่างๆ โรคภูมิแพ้ทั่วไป หากเด็กที่มีการแพ้อาหารอื่นๆทำให้มีโอกาสแพ้แป้งสาลีได้ค่ะ

    อาการแพ้แป้งสาลีในเด็ก

    อาการแพ้แป้งสาลีมักจะแสดงอาการต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย อาการแพ้และความรุนแรงอาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละคน ดังนี้

    • อาการแพ้ที่ส่งผลต่อระบบผิวหนัง ได้แก่ ผื่นแดงคัน ผื่นลมพิษ หน้าบวม ตาบวม ริมฝีปากบวมพร้อมกับอาการคันซึ่งอาจทำให้อาการบวมเพิ่มขึ้นได้ค่ะ
    • อาการแพ้ทีส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ น้ำมูกไหล ไอ จาม การแพ้ในบางครั้งอาจนำไปสู่การอักเสบของปอดหรือลำคอ ส่งผลให้หายใจลำบาก หลอดลมตีบเฉียบพลัน แน่นหน้าอก เป็นต้น
    • อาการแพ้ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาการคันริมฝีปากบวม คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย กลืนลำบาก เป็นต้น
    • อาการแพ้ที่ส่งผลต่อระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น เวียนศีรษะ มึนงง ความดันโลหิตต่ำ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ

    การรักษาแพ้แป้งสาลีในเด็ก

    อาการแพ้แป้งสาลีในเด็กบางรายมีโอกาสหายได้หรือสามารถรับประทานได้เมื่อโตขึ้น ในส่วนของการรักษาเมื่อมีอาการแพ้มักขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปฏิกิริยาการแพ้ที่เกิดขึ้น เช่น การทานยาแก้แพ้ในกรณีที่อาการไม่รุนแรง เป็นต้น หากพบว่าลูกมีอาการแพ้ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติมและการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

    การป้องกันหลีกเลี่ยงการแพ้แป้งสาลีในเด็กนั้น สามารถกระทำได้เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กได้ดังนี้

    • ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ ไม่จำเป็นต้องงดอาหารกลุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแพ้ เช่น นมวัว ไข่ ถั่วลิสง ฯลฯ เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารได้ค่ะ ในกรณีที่คุณแม่หรือบุคคลในครอบครัวมีประวัติการแพ้อาหารควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำอื่นๆเพิ่มเติมค่ะ
    • ควรให้ลูกน้อยกินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยของคุณ
    • เริ่มอาหารเสริมให้กับลูกน้อยควรเริ่มเมื่ออายุ 6 เดือน และควรเริ่มทีละน้อยพร้อมกับสังเกตอาการหลังจากรับประทานอาหาร หากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันทีค่ะ
    • เมื่อลูกน้อยชองคุณมีอาการแพ้แป้งสาลี ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมที่สีส่วนผสมของแป้งสาลีค่ะ

    ปัจจุบันกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เนื่องจากน้ำนมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกสำหรับลูกน้อย อุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ช่วยปรับสมดุลร่างกาย เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดภาวะเสี่ยงต่อโรคภูมิและการเจริญเติบโตของลูกน้อยค่ะ

  • 7 ผื่นแพ้ในเด็ก

    7 ผื่นแพ้ในเด็ก

    ผื่นแพ้ในเด็กปัญหากวนใจของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อลูกน้อยมีผื่นขึ้นตามร่างกาย และเป็นที่มาของหลากหลายคำถามของคุณพ่อคุณแม่ ตุ่มแบบนี้เรียกว่าอะไรคะ มันจะหายไปเองได้ไหม และมีวิธีการรักษาอย่างไรคะ บทความนี้ทีมงาน thaichildcare ได้รวบรวมผื่นแพ้ต่างๆในเด็กมาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ  

    ผื่นแพ้ในเด็ก

    ผื่นที่เกิดขึ้นกับลูกของเรามีด้วยกันหลายรูปแบบ

    Skin Rashes Types and Causes in Children

    ผื่นแดง ETN (Erythema Toxicum Neonatorum)

    เป็นผื่นแดงมีขนาด 1-3 เซนติเมตร มีตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนองอยู่ตรงกลาง ไม่ทราบสาเหตุของการเกิดผื่นชนิดนี้และพบได้ในทารกแรกเกิด ตามสำตัว แขนและขา เป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วคราวโดยไม่อันตรายต่อเด็กและสามารถหายได้เองใน 1 สัปดาห์ค่ะ

    Transient Neonatal Pustular Melanosis

    มีลักษณะเป็นจุดสีแดงมีตุ่มน้ำใสหรือหัวหนอง บริเวณหน้า ตามลำตัว แขนและขา ผื่นชนิดนี้พบเฉพาะในทารกแรกเกิดเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายและหายได้เอง ตุ่มน้ำใสหรือหัวหนองจะแตกออกภายใน 24-48 ชั่วโมง เมื่อตุ่มแตกแล้วจะเป็นขุยขาวๆบนพื้นผิวที่เข้มกว่าสีผิวปกติค่ะ แต่สีจะจางหายเป็นปกติภายใน 3 เดือนค่ะ

    ผื่น Milia

    มีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดขาวๆ เหลืองๆ ลักษณะของมันคล้ายสิวแต่ไม่ใช่สิวค่ะ พบที่บริเวณหน้าผาก แก้ม จมูกของทารก และอาจจะพบที่ในช่องปาก เหงือก และกลางเพดานปากได้ด้วยค่ะ เกิดจากการตกค้างของสารเคอราติน (โปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในหนังกำพร้า ผม เล็บ) ส่วนใหญ่หายเองภายใน 1-2 เดือน หากไม่หายหรือพบการกระจายมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ช่วยในการวินิจฉัยและรักษาค่ะ อาจมีการติดเชื้อหรือโรคอื่นร่วมด้วยค่ะ

    สิวฮอร์โมน (neonatal acne)

    การเกิดสิวในทารกไม่ใช่โรคผิวหนังนะคะ แต่เป็นกลไกตามธรรมชาติของการผลิฮอร์โมน โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดสิวในเด็กค่ะ ซึ่งอาจสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศชายที่ค่อนข้างสูงไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน พบได้ตั้งแต่อายุ 3 สัปดาห์ อาจเป็นตุ่มแดงหรือตุ่มหนอง พบมากที่สุดที่ใบหน้าบริเวณแก้ม แต่อาจพบที่หนังศีรษะ โดยปกติแล้วสิวในเด็กทารากส่วนใหญ่จะหายได้เองใน 2 – 4 สัปดาห์ค่ะ ช่วงที่ทารกเป็นสิวคุณแม่ต้องรักษาความสะอาด เลือกใช้ผลิตที่อ่อนโยนป้องกันการระคายเคืองผิวค่ะ และไม่ควรทาโลชั่นหรือน้ำมันเพราะจะทำให้อุดตันรูขุมขนมากขึ้นค่ะ

    ต่อมไขมันอักเสบ (seborrheic dermatitis)

    หรือเรียกว่าเซ็บเดอร์ม เป็นโรคที่มีการอักเสบของผิวหนัง เป็นผื่นแดงมีสะเก็ดเหลืองของไขมันปกคลุม พบบ่อยที่หนังศีรษะ ใบหน้า หู คอ และบริเวณที่ใส่ผ้าอ้อม ส่วนใหญ่หายได้เองใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนค่ะ แต่ในบางรายที่มีอาการรุนแรงหรือมีการอักเสบเรื้อรังซึ่งอาจเกิดการติอเชื้ออื่นๆร่วมด้วยค่ะ ควรไปพบคุณหมอเพื่อการวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

    ตุ่มน้ำพอง sucking blister

    มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำพองขอบริมฝีปากของทารกแรกเกิด อาจมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 – 8 มิลลิเมตร เกิดจากการที่ลูกดูดนมแรงๆ ซึ่งอาจพบตลอดขอบริมฝีปากบนล่างหรือพบเฉพาะที่กลางริมฝีปากบน หรือบริเวณหลังมือ ข้อมือ หรือนิ้วมือในบริเวณที่สามารถเอาเข้าปากลูกได้ค่ะ บางครั้งก็แตกแล้วตกสะเก็ด ส่วนใหญ่ไม่ต้องรักษาค่ะยกเว้นในกรณีที่มีติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนค่ะ ควรพาลูกน้อยพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยการให้ยาต้านแบคทีเรียค่ะ

    ผดร้อน(miliaria)

    พบบ่อยในทารกช่วงอายุ 1 – 4 สัปดาห์ ลักษณะเป็นตุ่มผดแดง ตุ่มใส และผดตุ่มหนองขนาดเล็กๆ บริเวณใบหน้า หนังศีรษะ และข้อพับ เกิดจากการพัฒนาของต่อมเหงื่อและผิวหนังของทารกยังไม่สมบูรณ์ ทำให้ท่อของต่อมเหงื่อเกิดการอุดตันและมีการรั่วของเหงื่อที่ผิวหนัง ส่วนใหญ่หายได้เองเมื่ออากาศเย็นสบาย ถ้าไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อใช้ยาและตรวจดูว่าตุ่มน้ำใสนั้นมีการติดเชื้อร่วมด้วยหรือไม่

    นอกจากนี้ ยังพบผื่นที่เกิดจาการแพ้อาหาร นม หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆค่ะ ซึ่งถ้าหากคุณพ่อคุณแม่สงสัยและไม่แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณเป็นผื่นประเภทไหน วิธีที่ดีที่สุดคือการพาลูกไปพบแพทย์ตรวจเพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

    บทความที่เกี่ยวข้อง

https://smpseraphinebaktiutama.sch.id/

https://www.ijte.net/ toto 4d slot88 https://ijes.istes.org/ https://www.bestdergi.net/ https://pafimalangbong.org/ https://hmjcr.co.in/ https://himpsisumatera.org/ https://himpsibangkabelitung.org/ https://hipmikepseribu.org/ https://sofs.org.ua/ https://himpsimalut.org/ https://himpsimalut.org/ https://himpsijembrana.org/ https://himpsidenpasar.org/ https://www.part4d.com/ http://www.cialbuy.com/ https://www.tihamah.net/ https://quantumjuggling.com/ https://pollmyspace.com/ https://atle-bolivia.org/

https://journal.infopolis.gr/

https://ijonse.net/

https://insightsjhr.com/

https://cafeenglish.org/ https://www.istes.org/ https://insightsjlss.com/ https://globalarchives.in/ http://superkiway.com/

slot999

slot bet 200

toto jitu sgp

toto 4d

Slot Bet 200

cerita 18+

https://faktanyabola.id/

slot gacor 2025

prediksi togel

slot88

SLOT777

SLOT THAILAND

slot bet 200

MATAUANGSLOT

MATAUANGSLOT

https://pafigalungung.org/

Link Slot Gacor

Slot RP APK Gacor

MPO SLOT 88

Situs Alternatif Mpo Slot

Mpo Slot Mudah Maxwin

MPO SLOT 88 Gacor

Slot88

Slot 777

slot bet kecil

situs toto

situs toto

matauangslot

slot777

situs toto

situs toto

toto 4d

slot88

slot777

scatter hitam

https://www.prasetiyamulya.org/

https://togelmatauang.com/

https://slotvipmatauang.com/

https://folsomfelines.org/

https://68.183.224.199/

https://frenchysymphony.com/

https://lunetwork.org/

https://formationsantedroit.org/

https://teamromany.com/

https://hidetanakake.com/

https://profheshamsalaheldin.com/

https://neighboursreview.com/

https://brittanygilbertdesign.com/

https://menlotool.com/

https://leadnepal.com/

https://toyotasuphanburi.com/

https://cospicuascouts.org/

https://nwaeast.org/

https://lhjhkxclinxia.com/

https://cafeelemani.com/

https://arbeloproperty.com/

https://vorousviewvie.com/

https://guvenlikisilani.com/

https://federationbeninbasket.com/

https://mahlerrecords.com/

https://yourhappinessquest.com/

https://thoriumxtablet.com/

https://ellahathaun.com/

https://comiteproanimal.org/

https://krilamusic.com/

https://robert-grenier.com/

https://bedtimebuy.com/

https://homeosoins.com/

https://iglesiacccvmalaga.org/

https://munongogodefroid.com/

https://indieoteque.com/

https://pulselifemag.com/

https://inspirationmatters.org/

https://darpinostudiogallery.com/

https://dpna-digital.com/

https://archivofotografiaurbana.org/

https://man1kotamadiun.sch.id/

https://universitaspertamina.id/

https://journals.aloysianpublications.com/

https://upm.stkippgrisumenep.ac.id/ https://failoften.net/ https://bpindonesia.com/ https://profngoerahhospitalbali.org/

Situs Toto Macau

> https://profngoerahhospitalbali.org/ https://www.rsubj.org/ https://www.lesprivatinsan.org/

slot dana

https://pecindonesia.id/

https://newprimagama.id/

https://balimedhospital.id/

https://baliroyalhospital.id/

https://rscitrahusada.id/

https://rsia-grhabunda.id/

https://rsmramata.id/

https://rsroyaltaruma.id/

https://changinternationalcircuit.com/

https://www.vansthailand.com/

https://kingpowerbangkok.com/

https://erawanhotel.org/

slot dana

slot bet 200

slot dana

slot dana

slot dana

slot dana

matauangslot

FOR4D

slot dana

https://pafinabirekota.org https://pafisiakkota.org https://pafikabsentani.org

matauangslot

slot777

slot dana

slot dana

slot dana

https://www.pusatmeki.com/ https://vaporivape.com/

https://ijonest.net/

https://medscicatalyst.org/

https://howj.org/

https://fucjef.net/

https://cefuturopdl.org/

https://ijres.net/

https://ijemst.com/

https://ijonses.net/

slot88

slot777

slot dana

slot dana

https://himpsisulut.org/

https://himpsisultenggara.org/

https://himpsipapuateng.org/

https://himpsipalu.org/

https://himpsipontianak.org/

https://himpsiambon.org/