น้ำผึ้งประโยชน์และข้อควรระวังในเด็ก

น้ำผึ้งของขวัญจากธรรมชาติที่หลายท่านทราบกันอยู่แล้วว่ามีคุณประโยชน์มากมายและรสชาติแสนอร่อย แต่คุณทราบหรือไม่ว่าน้ำผึ้งสำหรับเด็กนั้นมีข้อควรระวังอย่างไร และวันนี้เราจะพาไปหาคำตอบและทำความเข้าใจในประโยชน์และข้อควรระวังในการใช้น้ำผึ้งสำหรับเด็กนั้นมีอะไรบ้างค่ะ

แม้ว่าน้ำผึ้งจะมีสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์จากธรรมชาติแต่ไม่ได้มีไว้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เนื่องจากในน้ำผึ้งอาจก่อให้เกิดโรคโบทูลิซึมในทารก ที่เกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียคลอสติเดียมโบทูลินัม(Clostridium botulism) ซึ่งอาจเป็นพิษและทำให้เกิดปัญหาในทางเดินอาหารของทารกได้ค่ะ

ประโยชน์ด้านสุขภาพของน้ำผึ้งสำหรับเด็ก

ประโยขน์ของน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งมีประโยชน์มากมายสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กๆ โดยองค์ประกอบทางโภชนาการที่พบในน้ำผึ้ง 339 กรัม ได้แก่ โปรตีน 1 กรัม, น้ำ 8 กรัม, แคลเซียม 20.3 มก, แมกนีเซียม 6.8 มก, โพแทสเซียม 176 มก, สังกะสี 0.7 มก, เส้นใยอาหาร 7 กรัม, พลังงาน 304 กิโลแคลอรี, น้ำตาล 278 กรัม, วิตามินซี 1.7 มก, เนียซิน 0.4 มก, โฟเลต 6.8 mcg ซึ่งมีประโยชน์ต่อเด็กๆดังนี้

  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากในน้ำผึ้งมีวิตามิน แร่ธาตุและกรดอะมิโนที่จำเป็นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กที่กำลังเติบโตค่ะ
  • น้ำผึ้งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันตับ ช่วยตับควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ฟังดูแปลกที่การใช้น้ำผึ้งกับรอยถลอกของเด็กๆ น้ำผึ้งสามารถช่วยบรรเทาผิวที่ระคายเคืองได้ค่ะ
  • น้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอเจ็บคอและระคายเคืองได้ค่ะ
  • น้ำผึ้งสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและท้องเสียได้ค่ะ เชื่อกันว่าสารอาหารในน้ำผึ้งจะทำลายแบคทีเรียในลำไส้ค่ะ
  • ช่วยระบบย่อยอาหาร ผึ้งเป็นยาธรรมชาติที่ช่วยในการย่อยอาหารโดยสามารถชงชาผสมน้ำผึ้งดื่มได้ทันทีค่ะ
  • ช่วยให้ผิวนุ่มชุมชื่น น้ำผึ้งเป็นหนึ่งในมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผิว จะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ต่างๆนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมค่ะ

ข้อควรคำนึงในการใช้น้ำผึ้งในเด็ก

ข้อควรคำนึงในการใช้น้ำผึ้งในเด็ก

  • ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีรับประทาน เพาะอาจทำให้เกิดพิษและเกิดโรคโบทูลิซึมซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและอาจเสียชีวิตได้ค่ะ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งในเด็กทารกโดยเฉพาะเด็กที่มีประวัติแพ้ผลิตภัณฑ์จากผึ้งค่ะ
  • กรณีที่ให้เด็กรับประทานน้ำผึ้งควรสังเกตอาการหรือปฏิกิริยาการแพ้  ซึ่งหากพบว่าลูกหายใจลำบากควรพบแพทย์ทันทีค่ะ
  • หลังจากใช้แล้วควรปิดฝาให้สนิทและวางให้พ้นมือเด็ก เนื่องจากน้ำผึ้งมีรสหวานและเป็นอาหารโปรดปรานสำหรับมดค่ะ