Tag: ฟันผุ

  • ถาม-ตอบ สุขภาพช่องปากลูกน้อย

    ถาม-ตอบ สุขภาพช่องปากลูกน้อย

    ในฐานะของพ่อและแม่เป็นเรื่องปกติที่จะกังวลและกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลูก โดยเฉพาะพ่อแม่มือใหม่ซึ่งส่วนใหญ่มักคิดว่าสิ่งที่ทำเพื่อลูกน้อยอาจเป็นสิ่งที่ไม่เพียงพอหรือผิดอะไรบ้างไหม แม้ว่าจะทำได้ดีแล้วก็ตามค่ะ พ่อแม่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับลูกที่จะทำให้คุณกังวลไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกิน รูปแบบการนอน สุขภาพ เหตุการณ์สำคัญและอื่นๆ สุขภาพฟันของเด็กๆเป็นอีหนึ่งสิ่งที่ควรละเลยค่ะ วันนี้เรารวบรวมคำถามและคำตอบเกี่ยวกับสุขภาช่องปากของเด็กๆที่พบบ่อยกันค่ะ

    ถาม-ตอบ สุขภาพช่องปากลูกน้อย

    ถาม : ยาสีฟันสำหรับเด็กแบบไหนดี
    ตอบ : ยาสีฟันสำหรับเด็กที่ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยแนะนำคือ ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ 1000ppm ค่ะ

    ถาม : ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพฟันครั้งแรกเมื่อไหร่
    ตอบ : เพื่อป้องกันปัญหาสุภาพฟันลูกควรไปพบทันตแพทย์เมื่อฟันซี่แรกปรากฏขึ้นมาหรือช่วงอายุ 1 ปีค่ะ

    ถาม : ฟันน้ำนมสำคัญกับลูกของจริงหรือ
    ตอบ : ฟันน้ำนมมีความสำคัญหลายสาเหตุค่ะ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เด็กๆพูดได้ชัดเจนและเคี้ยวอาหารเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างเส้นทางของฟันแท้ค่ะ

    ถาม : ลูกปวดฟันควรทำอย่างไร
    ตอบ : ล้างบริเวณที่ระคายเคืองด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ และประคบเย็นบนใบหน้าหากมีอาการบวมค่ะ สามารถใช้ยาแก้ปวดได้ค่ะ แต่ควรเป็นยาที่เหมาะกับเด็กเท่านั้นค่ะ สุดท้ายพบทันตแพทย์โดยเร็วดีที่สุดค่ะ

    ถาม : ลูกติดจุกหลอกหรือชอบอมนิ้ว ทำให้ฟันเสียจริงไหม
    ตอบ : นิสัยการดูดนิ้วหัวแม่มือและจุกนมหลอกนานๆโดยทั่วไปจะกลายเป็นปัญหาของสุขภาพฟันได้ค่ะ 

    ถาม : ป้องกันฟันผุได้อย่างไร
    ตอบ : หลีกเลี่ยงการให้ลูกอมจุกนมจนหลับ หรือกินขนมก่อนนอนค่ะ นอกจากนี้ควรเรียนรู้วิธีแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันของเด็กอย่างเหมาะสม พาลูกของคุณไปพบทันตแพทย์เด็กเป็นประจำเพื่อตรวจฟันและเหงือกค่ะ

    ถาม : เด็กควรไปพบทันตแพทย์เด็กบ่อยแค่ไหน
    ตอบ : แนะนำให้ตรวจสุขภาพทุกๆ 6 เดือนค่ะ เพื่อป้องกันฟันผุและปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ อย่างไรก็ตามการพาเด็กพบทันตแพทย์ประจำสามารถบอกคุณได้ว่าลูกของคุณ ควรไปพบเด็กเมื่อใดและบ่อยแค่ไหนตามสุขภาพช่องปากส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังช่วยให้เด็กคุ้นเคยไม่กลัวคุณหมอฟันค่ะ

    ถาม : ยาสีฟัน เราควรเริ่มใช้ตอนไหนและควรใช้ในปริมาณเท่าไหร่
    ตอบ : ยาสีฟันสามารถใช้ได้ตั้งแรกฟันซี่แรกค่ะ เพียงเพียงเล็กน้อยในการแปรงฟันน้ำนมวันละ 2 ครั้ง เมื่อเด็กอายุ 3 ถึง 6 ปีให้เพิ่มปริมาณยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เป็นขนาดเท่าเมล็ดถั่ว เด็กควรบ้วนทิ้งและไม่กลืนยาสีฟันค่ะ สิ่งสำคัญควรช่วยเด็กๆในการแปรงฟัน เนื่องจากเด็กเล็กไม่สามารถแปรงฟันได้สะอาดอย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอค่ะ

    ถาม : จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกได้รับฟลูออไรด์เพียงพอ
    ตอบ : คุณแม่สามารถพาเด็กพบคุณหมอเพื่อประเมินระดับฟลูออไรด์ที่ขับออกทางปัสสาวะ นำมาคำนวณหาปริมาณฟลูออไรด์ที่ได้รับต่อวันค่ะ ซึ่งหากเด็กๆได้รับไม่เพียงพอทันตแพทย์อาจสั่งอาหารเสริมฟลูออไรด์ให้ค่ะ

    สิ่งสำคัญในการดูแลสชภาพฟันของเด็กคือ คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยเด็กๆแปรงฟันและแนะนำการแปรงฟันที่ถูกวิธีค่ะ ไม่ควรปล่อยให้เด็กๆแปรงฟันด้วยตัวเองค่ะ

    บทความที่เกี่ยวข้อง

  • จริงหรือไม่ มีปัญหาช่องปากตอนท้อง ส่งผลต่อเด็กในท้อง

    จริงหรือไม่ มีปัญหาช่องปากตอนท้อง ส่งผลต่อเด็กในท้อง

    มีคำถามที่น่าสนใจ “ริงหรือไม่ มีปัญหาช่องปากตอนท้อง ส่งผลต่อเด็กในท้อง ?” ซึ่งปัญหาสุขภาพภายในช่องปาก เป็นหนึ่งในปัญหาในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งปัญหาช่องปากที่พบบ่อยในช่วงนี้ มีดังนี้

    • ฟันผุ อย่างแรกต้องทำความเข้าใจใหม่สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ได้รับข้อมูลมาผิดๆ ว่าฟันผุ ระหว่างการตั้งครรภ์ เกิดจากที่ลูกแย่งแคลเซียม หรือการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิด แต่การที่ฟันผุในระหว่างตั้งท้อง เกิดจากที่มีเปลี่ยนแปลงการกินอาหารให้ตรงตามโภชนาที่เหมาะสมกับคนตั้งครรภ์ หรือเกิดจากรักษาสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี หรือเกิดจากการแพ้ท้อง และอาเจียรบ่อย จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ฟันผุได้
    • ฟันกร่อน อาการฟันกร่อน ก็เป็นที่ปัญหาที่พบบ่อยในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากที่คุณแม่อาเจียรบ่อยและเป็นเวลานาน ที่เกิดจากการแพ้ท้อง หรืออีกสาเหตุที่ฟันกร่อนเกิดจากการที่คุณแม่เป็นกรดไหลย้อยอย่างรุนแรง หรืออีกสาเหตุหนึ่งคือรับประทานอาหารที่มีความเป็นกรด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันสึกกร่อนได้
    • เหงือกอักเสบ และปริทันต์อักเสบ ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ อาจมีความเสี่ยงที่จะให้เหงือกและเนื้อเยื่อต่างๆ ที่รองรับฟัน หย่นหรืออ่อนตัวลง และมีความไวต่อการที่จะอักเสบพร้อมกับการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาการดังกล่าวเรียกว่า ปริทันต์อักเสบ ซึ่งสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างที่ตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มีภาวะเป็นโรคเบาหวาน ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นปริทันต์อักเสบ ได้ง่ายกว่าปกติ วิธีแก้ไขปัญหาคือคุณแม่ทำความสะอาดช่องปาก แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกต้อง ก็จะเป็นการลดความเสี่ยงเป็นโรคเหงือกอักเสบได้ค่ะ
    • ปากแห้ง ในคุณแม่บางคนที่กำลังตั้งครรภ์ ก็อาจเกิดภาวะปากแห้งชั่วคราว ซึ่งสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ดังนั้น คุณแม่ที่เป็นภาวะปากแห้ง ให้จิบน้ำบ่อยๆ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของไซลิทอลแบบไม่มีน้ำตาล ก็จะช่วยบรรเทาอาการปากแห้งได้

    ปัญหาช่องปากตอนท้อง ส่งผลต่อเด็กในท้อง หรือไม่

    คำตอบคือ มีผลต่อเด็กในท้อง คุณแม่ที่มีปัญหาภายในช่องปากในระหว่างการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะฟันผุหลายซี่ จะมีปริมาณของแบคทีเรียในปากมาก โอกาสที่จะถ่ายทอดเชื้อแบคทีเรียไปสู่ลูกมีเปอร์เซนต์สูงมาก จะส่งผลทำให้ลูกมีโอกาสที่จะฟันผุ ไม่เพียงเท่านั้น หากคุณแม่เป็นโรคปริทันต์ ก็มีโอกาสที่คุณแม่จะคลอดลูกก่อนกำหนด และเด็กก็มีโอกาสที่มีน้ำหนักน้อย ดังนั้น ในช่วงที่คุณแม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ ควรเอาใจใส่การทำความสะอาดช่องปากเป็นสำคัญในช่วงนี้

    คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรตรวจสภาพช่องปากตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์

    ฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างที่ตั้งครรภ์ จะส่งผลไปถึงช่องปากของคุณแม่ ทำให้เหงือกและเนื้อเยื่อต่างๆ ที่รองรับฟันมีความอ่อนแอลง โดยมีการอธิบายว่าการที่มีอาการแพ้ท้อง อาเจียรบ่อย และการดูแลภายในช่องปากไม่ดี จะทำให้คุณแม่ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ ฟันผุได้ง่าย ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มีสุขภาพช่องปากที่ไม่ดี ฟันผุ คุณแม่ควรได้รับการตรวจช่องปาก ตั้งแต่ตอนที่มาทำการฝากครรภ์ เพื่อวินิจฉัยในช่องปากว่าเป็นอย่างไร รวมไปถึงวิธีการดูแลรักษาสุขภาพภายในช่องปากของตัวคุณแม่และลูก ทั้งวิธีการแปรงฟัน และการใช้ไหมขัดฟันที่ถูกวิธี

    เทคนิคการทำความสะอาดช่องปากด้วยสูตร 222

    การทำความสะอาดช่องปากด้วยสูตร 222

    • แปลงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ นาน 2 นาที
    • ทำความสะอาดทุกวันวันละ 2 ครั้ง
    • งดอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเช่น ขนม และน้ำอัดลม หลังการทำความสะอาดช่องปาก 2 ชั่วโมง

    การดูแลช่องปากในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์

    • รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่และถูกหลักโภชนาการ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
    • ลด จำกัด การรับประทานอาหารจำพวก ของหวาน เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล หรือเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรดสูง
    • หันมารับประทานผลไม้แทนการกินน้ำผลไม้
    • ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอร์ในช่วงที่ตั้งครรภ์
    • แปลงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และใช่ไหมขัดฟันวันละ 2 เวลาเช้าเย็น หรือทางทีดีความทำความสะอาดฟันหลังมื้ออาหาร
    • หากไม่สามารถแปรงฟันหลังมื้ออาหารได้ ก็ให้ใช้วิธีการเคี้ยวหมากฝรั่งที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล หรือหมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของไซลิทอล เพื่อลดแบคทีเรียภายในช่องปาก ที่เป็นสาเหตุของสาเหตุการเกิดฟันผุ
    • ปรึกษาหมอฟัน ถึงวิธีการดูแลช่องปากในระหว่างตั้งครรภ์ถึงวิธีการที่ถูกต้อง การใช้น้ำยาบ้วนปาก อย่างถูกวิธี
    • สำหรับคุณแม่ที่มีอาการกรดไหลย้อน หรือมีอาการแพ้ท้อง แนะนำให้บ้วนปากด้วยสารละลายเบคกิ้งโซดา หรือน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในทันทีหลังที่มีการอาเจียร เพื่อเป็นการช่วนปรับสถาพความเป็นกรดในช่องปากให้เกิดการสมดุล และการหลีกเลี่ยงการสึกกร่อนของฟัน

    คุณแม่ที่ดูแลเอาใจช่องปากในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่เพียงที่จะช่วยให้สุขภาพภายในช่องปากดีแล้ว ยังไม่ส่งผลเสียต่อลูกที่อยู่ในครรภ์อีกด้วย