โรคในเด็กที่มากับฤดูหนาว
สวัสดีค่ะ
ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ มักจะมาพร้อมกับโรคภัยไข้เจ็บของเด็กๆ วันนี้แอดมินจะพาคุณพ่อคุณแม่มารู้จักโรคและการรับมือกับโรคต่างๆที่มาพร้อมกับฤดูหนาว ตามมากันเลยค่ะ
โรคไข้หวัดใหญ่(Influenza)
โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอย่างเฉียบพลันเช่นเดียวกับไข้หวัด แต่เกิดจากไวรัสคนละชนิดและมีความรุนแรงสูงกว่าโรคหวัดธรรมดามาก ไข้หวัดใหญ่มีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน คือ ชนิดเอ ชนิดบีและชนิดซี โดยจะมีอาการหนาวสะท้าน มีไข้สูง ปวดศรีษะรุนแรง คัดจมูก เจ็บคอ ปวดเหมื่อยตามร่างกาย ในเด็กจะพบอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย หากพบว่ามีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายและรักษาต่อไป
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สามารถทำได้โดยการดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรดื่มน้ำให้มากค่ะ หรือการฉีดวัคซีนซึ่งปัจจุบันมีวัคซีนที่สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ รวมถึงการไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ใช้หน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อ และใช้ยาที่ถูกต้องจากแพทย์ค่ะ
โรคไข้หวัด(Common cold)
โรคหวัดธรรมดา เป็นโรคที่พบบ่อยมาก ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ แพร่เชื้อได้ง่ายด้วยการไอ จาม หรือสัมผัสที่ของที่ปนเปื้อนเชื้อโรคแล้วนำเข้าปาก ลักษณะอาการใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดใหญ่แต่อาการไม่รุนแรง มีไข้(แต่ไม่สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส) คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม บางคนครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย และอาการคันคอเป็นอาการเด่น อาการส่วนใหญ่จะหายได้เองใน 3-4 วัน หรือไม่เกิน 1 สัปดาห์
โรคไข้หวัดธรรมดาไม่มีวัคซีนป้องกัน เนื่องจากมีเชื้อไวรัสหลายชนิด วิธีการรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น ถ้าลูกมีไข้ให้ทานยาลดไข้พาราเซตามอลและเช็ดตัวเพื่อลดไข้ หรือหากมีอาการไอ เจ็บคอ เลือกรับประทานยาแก้ไอขับเสมหะ ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรดื่มน้ำให้มากๆ
โรคปอดบวม (Pneumonia)
โรคปอดบวม หรือ ภาวะการอักเสบของปอด เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และพยาธิ โดยเชื้อแบคทีเรียพบบ่อยในเด็ก ได้แก่ เชื้อนิวโมคอคคัส เชื้อรา หรือสารเคมี เป็นต้น โดยสามารถแพร่กระจายออกมาเวลาไอ จามค่ะ อาการจะคล้ายไข้หวัดธรรมดาคือ มีไข้ ไอ คัดจมูก แต่จะมีอาการอื่นๆร่วม ดังนี้ หนาวสั่น หายใจเหนื่อย ไอแห้งๆ หรือมีเสมหะ มีเสียงหายใจครืดคราด มีการเจ็บหน้าอกบริเวณที่อักเสบ
โรคปอดบวมสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโรคที่ทำให้เกิดปอดบวม เช่น วัคซีนไอพีดี วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น รวมถึงการหลีกเหลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคปอดบวม หมั่นทำความสะอาดบ้าน สวมใส่เสื้อกันหนาวและเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายเสมอ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนฝึกให้ลูกล้างมือบ่อยๆ และดื่มน้ำมากๆค่ะ
โรคหัด (Measles)
โรคหัด หรือ โรคไข้ออกผื่น มักพบในเด็กอายุ 2-14 ปีและพบได้บ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่เรียกว่า รูบีโอราไวรัส (rubeola virus) โดยเชื้อจะมีอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และปัสสาวะของผู้ป่วย สามารถติดต่อได้โดยการไอ จามรดกันโดยตรงหรือการหายใจสูดเอาฝอยละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วยที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าไป รวมถึงการสัมผัสการใช้สิ่งเครื่องใช้ต่างๆ ของผู้ป่วย เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ของเล่น เป็นต้น โรคหัดหากเกิดภาวะแทรกซ้อนอาจทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ อาการระยะก่อนออกผื่น จะมีไข้สูงอยู่ตลอดเวลารับประทานยาลดไข้ก็ไม่ลด เด็กจะมีอาการซึม กระสับกระส่าย ร้องงอแง ไม่ทานอาหาร เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มักไอแห้งตลอดเวลา มีน้ำมูกมาก ปากและจมูกแดง และอาจจะมีไข้สูงประมาณ 3 – 4 วัน จึงเริ่มมีผื่นจากหลังหูลามไปยังหน้าและร่างกาย มีลักษณะราบสีแดงขนาดเท่าหัวเข็มหมุด เป็นผื่นแบบไม่คันและหลังจากผื่นออกเต็มที่แล้วจะค่อย ๆ จางลง และหายไปภายใน 7-10 วัน แต่บางรายก็อาจนานกว่านั้น
การป้องกันรักษาสามารถทำได้โดยการวัคซีนป้องกันโรคเพียงครั้งเดียวในช่วงที่เด็กมีอายุ 9-12 เดือน รวมถึงควรดูแลสุขภาร่างกายให้แข็งแรง ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมากๆและพักผ่อนให้เพียงพอ
โรคอีสุกอีใส (Chickenpox/Varicella)
โรคอีสุกอีใส หรือโรคไข้สุกใส เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลาไวรัส (Varicella virus) หรือ Human herpesvirus type 3 โดยมีระยะฟักตัวประมาณ 10-21 วัน และสามารถติดต่อผ่านทางลมหายใจ ไอ จาม การสัมผัสถูกตุ่มน้ำของผู้ป่วยหรือการใช้สิ่งของเครื่องของร่วมกัน ลักษณะของอาการมีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดกล้ามเนื้อ มีผื่นแดง ตุ่มนูน ตุ่มพองใส หรือบางที่เป็นตุ่มกลัดหนอง และสะเก็ดแผลก็จะค่อยๆ ลอกจางหายกลับเป็นปกติ ควรหลีกเลี่ยงการแกะเกาตุ่ม ดื่มน้ำให้มาก พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
โรคหัดเยอรมัน (Rubella)
โรคหัดเยอรมัน หรือ หัดสามวัน เป็นโรคไข้ออกผื่นที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสรูเบลลาไวรัส (Rubella virus) ซึ่งมีอยู่ในน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย สามารถแพร่เชื้อและติดต่อโดยการ ไอ จาม หรือหายใจรดกัน เช่นเดียวกับไข้หวัดหรือหัด ผู้ป่วยจะมีอาการไข้และออกผื่นคล้ายกับโรคหัด แต่จะมีความรุนแรงน้อยกว่าหัด และมักจะหายได้เองโดยไม่มีโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง ลักษณะของผื่นเป็นเม็ดละเอียดสีแดง กระจัดกระจาย ทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น และจะหายไปภายใน 3 วัน
การป้องกันรักษาสามารถทำได้โดยการวัคซีนป้องกันโรคโรคหัดตามช่วงอายุที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดค่ะ
โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Gastroenteritis)
โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปาราสิต ซึ่งเชื้อไวรัสโรต้า (Rota virus) มักพบได้บ่อยในเด็กอายุเล็กต่ำกว่า 5 ปี ทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว และมักมีอาการไข้ อาเจียน ในเด็กมีอาการซึม มือเท้าเย็น ร้องไห้ไม่มีน้ำตา ตาโหล ปากแห้ง กระหายน้ำ ซึ่งเกิดจากร่างกายขาดน้ำ ต้องระวังให้มากอาจเกิดการช็อกได้
การป้องกันเบื้องต้นทำได้โดยรับประทานอาหารที่สุก ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการรับประทานอาหาร การป้องกันสามารถฉีดวัคซีนป้องกัน โรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าได้ ล้างมือทุกครั้งก่อนทานอาหารทาน เลือกอาหารที่ปรุงสุก สะอาด สด ร้อน เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่แฝงมากับอาหารค่ะ
นอกจากนี้ การป้องกันดูแลลูกให้ห่างไกลโรคต่างๆ คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเอาใจใส่ และสังเกตอาการลูกเสมอ หากพบว่าลูกป่วยควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ