ในการตั้งครรภ์ในช่วงแรกคุณผู้หญิงส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ยังสาวในท้องแรกมักจะไม่ทราบว่าตัวเองได้ตั้งครรภ์ ซึ่งสัญญาณบอกลักษณะอาการคนท้องของผู้หญิงในแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป โดยในช่วงระยะ 1-2 สัปดาห์แรก อาจจะไม่แสดงอาการออกมาหรือมีอาการแพ้ท้องแต่อย่างใด แต่ในบางคนก็จะแสดงอาการออกมาทั้งแพ้หรือมีอาการอื่นๆให้เห็นโดยตรงและติดต่อกันเป็นเวลานาน
ดังนั้น ในช่วงแรกจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายในการจะวินิจตัวเองว่าตัวเองกำลังตัั้งครรภ ทำให้ในทางการแพทย์ได้วิจัยและสรุปถึงการวินิจฉัยอาการของคนที่กำลังจะตั้งครรภ์ออกมาในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อใหคุณแม่ได้ตรวจและเตรียมรับมือที่จะแสดงถึงการเป็นว่าที่คุณแม่
สัญญาณเตือนอาการคนท้อง
ประจำเดือนขาด
ผู้หญิงโดยปกติการมาของประจำเดือนจะใช้เวลาโดยประมาณ 21-35 วัน จะมาใกล้เคียงกันทุกเดือน แต่ถ้าหากเดือนไหนประจำเดือนหายไป 10 วันขึ้นไป นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ (แต่ไม่เสมอไป) ให้รีบทำการตรวจสอบโดยการหาที่ตรวจครรภ์ หรือพบแพทย์ตรวจเป็นดีที่สุด
มีอาการตกขาวมากกกว่าปกติ
เมื่อมีการตั้งท้อง จะมีการปรับตัวทั้งฮอร์โมนและสรีระสูง ส่งผลให้เกิด “ตกขาว” ในปริมาณที่มาก แต่อย่าเพิ่งตกใจ เพราะลักษณะตกขาวที่เป็นมูกเหลวสีขาวขุ่น หรือออกเป็นสีครีม ถือว่าเป็นสภาวะที่เป็นปกติไม่อันตรายอย่างใด ซึ่งบริเวณปากมดลูกและช่องคลอดจะมีการสร้างของเหลวออกมาเพื่อหล่อลื่น แต่หากในช่วงที่ตั้งครรภ์จะผลิตของเหลวมาจำนวนมากกว่าปกติ ดังนั้นต้องคอยทำความสะอาดอยู่เสมอไม่ให้เกิดการอับชื้นทำให้เกิดเชื้อรา แต่หากตกขาวมีลักษณะที่ผิดปกติ เช่น มีสีเขียว หรือเหลือง และมีอาการคัน ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจจเกิดการติดเชื้อ
มีเลือดออกจากช่องคลอด
บริเวณช่องคลอดมีเลือดออกเล็กน้อยแต่ไม่ใช่ที่เกิดการจากประจำเดือน อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ในระยะแรก เพราะร่างกายกำลังอยู่ในสภาวะการปรับตัว ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่มาจากการปฎิสนธิภายในมดลูก ซึ่งในระยะเวลาหลังจากการปฎิสนธิ 11-12 วัน ตัวอ่อนจะทำการฝังตัวอยู๋บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก จึงเป็นสาเหตุที่เกิดการเลือดออกจากทางช่องคลอดเป็นสีแดงจางๆ หรือชมพู แต่มาในปริมาณที่ไม่มาก และจะหยุดไหลไปเองไม่เกิน 1-2 วัน และไม่มีอาการปวดเกร็งบริเวณท้อง ถือว่าปกติ แต่หากเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดและมีอาการปวดเกร็งบริเวณหน้าท้องร่วมด้วย ให้รีบปรึกษาแพทย์ในทันที เพราะอาจเป็นการบอกถึงการตั้งครรภ์นอกมดลูก
มีการเปลี่ยนแปลงของเต้านม
ฮอร์โมนจากรก และรังไข่มีการผลิตมากขึ้น ที่สาเหตุเกิดมากจากการตั้งครรภ์ จะส่งผลทำให้บริเวณหัวนม และบริเวณลานนมจะมีสีเข้ม ขยาย และรวมไปถึงอาการตึงเจ็บบริเวณนม อาการดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ประจำเดือนขาด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมักจะเห็นได้ชัดกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในครั้งแรก
มีอาการปวดหัว/เวียนศีรษะ
อาการปวดหัวก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นแม่คน ซึ้งสาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย และการปรับตัวตามธรรมชาติของร่างกายที่กำลังตั้งท้อง อาการปวดหัวในช่วงตั้งท้องในระยะแรก คุณแม่ในบางคน จะมีอาการปวดหัวบ่อยขึ้น ซึ่งจะปวดมากปวดน้อยสลับกันไป ขึ้นอยู้กับสภาพร่างกายของคุณแม่ บางคนอาจมีอาการวิตกกังวล เครียด หรือจะมีอาการภูมิแพ้ที่ทำให้อาการปวดหัวจากการตั้งครรภ์ที่จะรุนแรงมากกว่าปกติ ดังนั้น เรารู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ก็ควรเริ่มมีการปรับตัวในการที่จะดูแลทั้งเรื่องกินอาหารและน้ำ ให้มีความเพียงพอ พักผ่อนเยอะๆ ทำให้จิตใจสบาย หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือสื่อสารติดต่อกันเป็นเวลานาน และพยายามอยู่ในที่ปลอดโปร่ง เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการช่วยลดอาการปวดหัวได้
มีอาการปวดหลัง
อาการปวดหลัง ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ โดยอาการการที่คุณปวดหลังที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น และก็มีอาการตะคริวร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุมาจากการขยายตัวของกล้ามเนื้อส่วนกลาง ที่เกิดจากที่มดลูกขยายตัวใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเด็กทารกภายในครรภ์ ซึ่งอาการปวดหลังเป็นเรื่องปกติของคนตั้งครรภ์ ทั้งนี้อาการปวดหลังในขณะที่กำลังตั้งครรภ์สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จนทำให้ศูนย์กลางการทรงตัวของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ลักษณะท่าทางของการทรงตัว ยืน นั่ง หรือเกิน มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย อีกอย่างคือการนอนหากอยู่ในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ก็ควรปรับท่าทางการนอนควรนอนตะแคง โดยการใช้หมอนข้างสำหรับในการวางขา และเลือกที่นอนที่มีความพอดีไม่นุ่มไป หรือแข็งไป และหากคุณแม่มีอาการปวดหลังมาก ก็ควรปรึกษาหมอ ไม่ควรที่จะซื้อยามากินเอง เพราะยาอาจมีผลต่อเด็กในครรภ์เป็นได้
ปัสสาวะบ่อยมากขึ้น
การปัสสวะบ่อย เป็นหนึ่งสัญญาณที่หนึ่งที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยบ่งบอกถึงว่าคุณกำลังตั้งท้อง ซึ่งในช่วงนี้ช่วงกลางคืน จะมีการลุกขึ้นตื่นไปเข้าห้องน้ำบ่อยใสกขึ้น เพราะในช่วงแรกของการตั้งท้องโดยเฉพาะ 3 เดือนแรก ร่างกายจะผลิตของเหลวมากขึ้น เนื่องจากมดลูกที่ขยายตัวที่มาจากการตั้งท้องมีความต้องการเลือดไปหล่อเลี้ยงมดลูกมากขึ้นกว่าปกติ จนทำให้การทำงานของไตหนักขึ้น เพราะปริมาณเลือดในร่างกายมากกว่าเดิม ชีพจรจะเต้นเร็ว และมีเลือดผ่านระบบการทำงานของไตมากกว่าปกติ จึงทำให้ไตผลิตปัสสาวะมากขึ้น และในเวลาเดียวกันมเลูกที่ติดอยู่หลังบริเวณกระเพาะปัสสาวะที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มันไปเบียดแนบทับกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลทำให้คุณแม่มีอาการปัสสาวะบ่อย แต่หากอายุคครรภ์อยู่ในช่วงกลางของการตั้งครรภ์ การบีบทับกระเพาะปัสสาวะจะลดลง ทำให้การปัสสาวะกลับมาปกติ แต่จะกลับมาปัสสาวะบ่อยอีกครั้งเมื่อช่วงครรภ์ใกล้คลอดอีกครั้ง
ท้องอืด กับท้องผูกบ่อยครั้ง
การที่คนตั้งครรภ์ที่มีอาการท้องอืด และท้องผูกบ่อย เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เข้าสู่สภาวะของการตั้งท้อง เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจตเตอโรนที่มีปริมาณสูงขั้นส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร รวมทั้งการขยายตัวของมดลูก และไปบีบเบียดกับลำไส้ใหญ่ทำให้อาหารย่อยยากขึ้น ย่อยช้าลง และยังมีลมในกระเพาะมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนท้อง
เมื่อยล้า และอ่อนเพลีย
อาการเหนื่อยล้า เมื่อยล้า แบบไม่มีสาเหตุเป็นอาการเบื้องต้นของคนที่กำลังตั้งท้อง เพราะเกิดจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูง ส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือด ความดันเลือด และระบบไหลเวียนเลือด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ภายในร่างกายเผาพลาญอาหารภายในครรภ์มากขึ้น จนทำให้ร่ายกายสูญเสียพลังงาน ส่งผลทำให้ผู้หญิงที่ตั้งท้องบางคนมีอาการอ่อนเพลีย และเมื่อยล้า
หายใจถี่
เมื่อมีอาการหายใจถี่ มีอาการเหนื่อยง่ายในขณะที่ทำงานโดยต้องใช้แรงมากกว่าที่เคยเป็น ซึ่งอาการดังกล่าวก็เป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงการตั้งท้องของคุณ เนื่องจากตัวอ่อนที่เริ่มมีการเจริญเติบโตภายในท้องมีความต้องการอากาศออกซิเจนจากคนเป็นแม่ และเมื่อเด็กในท้องมีการเจริญเติบโตมากขึ้น ก็จะมีแรงกดดันต่อปอดและกระบังลม ส่งผลให้แม่ที่กำลังตั้งท้องมีอาการหายใจถี่ไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาของการตั้งท้อง
อยากกินของแปลกๆ หรือของเปรี้ยว
อาการอีกอย่างที่เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังตั้งท้อง คือการเปลี่ยนแปลงในการกินซึ่งมีความอยากอาหารที่แตกต่างจากที่เคยกิน ในบางคนอยากกินอาหารที่มีรสเปรี้ยว ในบางคนอยากกินอาหารแปลกๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือในบางคนก็มีอาการเบื่ออาหาร โม่อยากกินอะไรเลย ซึ่งสาเหตุเกิดจากระดับของฮอร์โมนที่มากขึ้นทำให้การรับรู้รสชาติของแม่ที่กำลังตั้งท้องมีการเปลี่ยนแปลง
อารมณ์แปรปรวน
หากคณผู้หญิงที่มีอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวหงุดหงิด มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ ที่ไม่ทราบสาเหตุและไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งอาการดังกล่าวก็เป็นจุดเริ่มต้นของข่าวดี คือคุณอาจกำลังจะมีน้อง ให้รีบไปตรวจและรับมือ สาเหตุเกิดจากการที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และร่างกายเกิดการปรับตัวให้รับต่อการตั้งท้องให้เกิดความสมดุลภายในร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ หากเวลานี้ผ่านพ้นไป ก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ดังนั้น คุณแม่ที่อยู่ระหว่างที่กำลังครรภ์ควรหากิจกรรมที่ทำให้ตัวเองผ่อนคลาย
มีความไวต่อกลิ่นที่ได้สูดดม
คนที่อยู่ในช่วงระหว่างกำลังตั้งครรภ์ ประสาทสัมผัสทางกลิ่นจะขึ้นเป็นพิเศษ ส่งผมทำให้บางคนเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือบางรายก็เหม็นกลิ่นอาหาร หรือกลิ่นตัวสามี เป็นต้น
มีความต้องการทางเพศที่สูง
อาการคนท้องในระยะแรกที่ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงยังส่งผลกระทบไปยังภาวะทางอารมณ์ ทำให้แม่ท้องบางรายอาจมีความต้องการทางเพศลดลง หรือบางรายอาจเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งอาการนี้จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อเข้าสู่การตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสที่สองค่ะ
ทั้งหมดนี้คืออาการสัญญาณเบื้องต้นว่าคุณที่กำลังตั้งครรภ์ หากท่านใดมีอาการดังกล่าว คุณแม่สามารถตรวจเช็คอาการท้องหรือไม่ในเบื้องต้นด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ หรือที่ตรวจครรภ์ เพื่อทำการตรวจหา ฮอร์โมน HCG (Human chorionic gonadotropin) ซึ่งมีความแม่นยำถึง 90% ชุดตรวจครรภ์สามารถหาซื้อได้ตามร้านเภสัช หรือร้านสะดวกซื้อทั่วไปได้ และหากตรวจออกมาแล้วก็ควรที่จะเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อเช็คชัวร์อีกครั้ง หากผลตรวจออกมาแล้วว่าตั้งครรภ์ก็ควรเดินทางฝากครรภ์ภายใน 12 สัปดาห์ เพื่อทำการเช็คอายุครรภ์ที่แน่นอน และติดตามการเจริญการเติบโตของเด็กทารกในครรภ์ได้อย่างถูกต้อง ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ การดูแลจนเองในช่วงการตั้งครรภ์ ตลอดจนถึงการกำหนดการคลอด แต่สำหรับหากตรวจพบว่าไม่ได้เกิดการตั้งครรภ์ก็จะตรวจหาสาเหตุว่าทำไม่ถึงไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือการตรวจหาการตั้งครรภ์นอกมดลูก
บทความที่เกี่ยวข้องอาการคนท้อง